13 พฤษภาคม, 2555

จิตอิสระ บทที่ 4: ซึมซับ ตอนที่ 21 โดย อิสระ


จิตอิสระ บทที่ 4: ซึมซับ ตอนที่ 21 โดย อิสระ


(หายไปนานเลยครับผม ฮ่าๆ ขออภัย พอดีชีวิตมันยุ่งเหยิงสับรางทำงานทำธุระหมดอารมณ์พล๊อตเรื่อง 
แล้วก็Username: flame619 กับ fallenversa คือผมเนี่ยแหละครับคนเดียวกัน เพราะเวปบอร์ดเก่าปิดรับสมาชิกใหม่เลยไม่ได้ใช้fallenversa อ่ะพูดซะยืดยาว ขอเกริ่นเลยนะครับ)

-************************ไม่มีบทวาบหวิวนะครับตอนนี้******************-

"วิหค ถึงจุดหมายแล้ว เปลี่ยน" ชายในชุดจู่โจมของตำรวจกรอกเสียงอัดเข้ากับวิทยุสื่อสารที่ติดอยู่คอเสื้อขณะยืนชิดกำแพงอิฐแผ่นใหญ่สีแดงที่มี่ตะไคร่มอสสีเขียวสดจับย้อมจนไม่เห็นสีแดงหม่นหมองของเนื้อดินเผาที่สูงตระหง่านซึ่งต้องแหงนมองจนคอตั้งเพื่อที่จะได้เห็นแผ่นหลังคาของตัวอาคารที่ตัดกับหมู่เมฆสีเทาที่ปกปิกดวงจันทร์จนไม่ไม่มีช่องใดที่จะให้แสงจันทร์เล็ดลอดลงมา
“จากเค้าแมว รับทราบแล้ว รอคำสั่ง เปลี่ยน” เสียงของผู้ชายตอบกลับมาด้วยเสียงที่เบาพอๆกัน ตำรวจที่ใช้รหัสว่า ‘วิหค’จึงชูกำมือขวาขึ้นระดับศีรษะ ตำรวจ 6 คนที่เหลือซึ่งอยู่ด้านหลังก็นั่งลงชันเข่าเอาตัวพิงกำแพงราวกับจะใช้มันกำบังสายตาผู้อื่น
“พี่ยุทธ ขอยืนยันอีกครั้งได้มั้ยว่าใช้กระสุนปลอมหรือของจริง” เสียงดังมาจากคนที่สามนับจากคนหน้าสุด ชายที่ใช้รหัส ‘วิหค’ หันกลับมามองด้วยสายตาอย่างรำคาญผ่านหน้ากากแก๊สสีดำ
“คราวหน้าอย่าเรียกชื่อจริงกู ใช้โค๊ดเนมไอ้หงส์หยก” ยุทธพูดพลางทำท่าเงื้อมือที่ละจากปืนกลเบาจะตบ ‘หงส์หยก’ ทำท่าหลบด้วยความตกใจ
“เออ กระสุนจริง คำสั่งมาว่างั้น มึงไม่เคยกูก็ไม่บ่อยเท่าไหร่” วิหคหันกลับไปนั่งชันเข่าท่าเดิมแล้วจับปืนกลเบา mp7ขนาดเล็กกะทัดรัดให้มั่น ครู่เดียวก็มีตำรวจในชุดจู่โจมย่องมาจากอีกฝั่งของกำแพงอีก7คน และนั่งลงยกขาชันเข่าท่าเดียวกัน ก่อนที่คนหน้าสุดจะยกวิทยุสื่อสารขึ้นมาเหมือนกัน
“มัจฉา ถึงจุดนัดพบแล้ว เปลี่ยน” ทั้งสองฝ่ายนั่งรอพิงกำแพงหันหน้าชนกันโดยตรงกลางคือประตูไม้โอ๊คเก่าๆหนาจัดคั่นอยู่

-รถบรรทุกคันเล็กคันหนึ่งที่ มีโลโก้ขนมปังยี่ห้อดังที่การันตีความสดใหม่ทุกเช้า จอดริมฟุตบาทรวมกับรถคันอื่น-
“จากเค้าแมว รอสัญญาณจากสมิง” รหัสเค้าแมวพูดสั้นๆแล้วปิดสัญญาณวิทยุ ถอดหูฟังที่ครอบหัวออก หันมามองหน้าชายในชุดจู่โจมแต่ไม่ได้ใส่หน้ากากกันแก๊สปกปิดใบหน้าอันหล่อเหลาของเขา ชายผู้ที่ใช้รหัส สมิง ยืนเท้ากอดอกมือกุมคางมองภาพอินฟราเรดจากกล้องที่ติดไหล่ของแต่ละทีมและภาพวงจรปิดจากหน้าจอมอนิเตอร์หลายๆภาพ พลางครุ่นคิดจนคิ้วเข้มๆนั้นขมวดหนักสร้างรอยย่นระหว่างคิ้ว ก่อนจะคว้าไมค์ที่อยู่บนโต๊ะ
ทันใดนั้น ก่อนที่จะมีคำพูดใดๆหลุดออกจากปากสมิง หน้าจอของหัวหน้าชุดทั้งสองก็เห็นเป็นภาพของประตูไม้โอ๊คกระเด็นออกมาจากวงกบเดิมอย่างรุนแรงพร้อมกับร่างของใครคนหนึ่งตามออกมาด้วย เสียงของตำรวจจู่โจมแต่ละร้องอุทานกันอื้ออึงจนฟังไม่รู้เรื่อง
“บุกเข้าไปเลย!!!” สมิงตะโกนกรอกไมค์ทันทีที่ตั้งสติได้ ทันทีทันใด ชุดจู่โจมทั้งสองนำโดยมัจฉาและวิหค ก็กรูเข้าไปในที่พักนั้นอย่างรวดเร็ว ด้านในที่พักมีเพียงแต่ความมืดมิดและแสงเลเซอร์ที่ติดปลายปืนสาดส่องทะลุฝุ่นควันไปทั่ว วิหคกราดสายตาสำรวจอย่างรวดเร็ว เห็นเพียงม่านฝุ่นควันที่ปกคลุมห้องโถงรับแขกขนาดใหญ่ และมีบันไดทอดลงมาจากทั้งสองข้างด้านหน้าขึ้นไปยังระเบียงชั้นสอง ในขณะที่จะมองขึ้นสูงไปด้านบน ทันทีนั้นแสงไฟจากโคมห้อยระย้าก็สว่างจ้าขึ้นทันที
“อ๊ากกก...” เสียงร้องดังแทรกสัญญาณวิทยุในขณะที่ดวงตาของวิหคพร่ามัวเพราะกล้องอินฟราเรดจับแสงได้ไวจนมองเห็นแต่สีขาวสว่างจ้า วิหครีบเอามือกดปิดกล้องอินฟราเรดทันที แล้วหันไปมองด้านหลัง ก็พบว่าลูกทีมของตนคนหลังสุดหายไปแล้ว
“กางเขน อยู่ที่ไหนตอบด้วย” วิหคตะโกนกรอกวิทยุด้วยเสียงอันดัง แต่ไม่มีเสียงของวิหคลูกทีมตนตอบกลับทั้งๆที่ห้องโถงนั้นไม่มีวี่แววของสิ่งใดๆที่จะมาเอาชายที่ใช้รหัสกางเขนไปได้
“เกิดอะไรขึ้น รายงานสถานการณ์ด่วน” เสียงของสมิงร้องถามอย่างร้อนรน 
“กางเขนหายตัวไปไม่ทราบว่าอยู่ที่ไหน ไม่มีสัญญาณตอบกลับครับ”
“ค้นหาให้ทั่ว ระวังตัวด้วย”
“รับทราบ” วิหคตอบรับแล้วหันไปมองลูกทีมและชุดจู่โจมมัจฉา และพยักหน้าให้เดินไปต่อทั้งๆทีลางสังหรณ์ของตนมันบ่องบอกถึงความอันตรายถึงชีวิต ทั้งๆที่ขาของตนนั้นแข็งจนแทบจะก้าวไม่ไหว ทั้งๆที่เม็ดเหงื่อแห่งความกลัวผุดพรายไปทั่วใบหน้า ทั้งๆที่แผ่นหลังของเขาเย็นเฉียบราวกับถูกน้ำแข็งฉาบไว้ ทั้งๆที่ใจของเขาแทบไม่เหลือความหวังให้ต่อลมหายใจต่อไป เพราะเบื้องบนบันไดนั้น ปรากฏคราบเลือดแห้งลากเป็นทางยาวไปยังทางเดินด้านในและมีรอยหยดเลือดกระเซ็นไปทั่ว

จบตอนที่ 21 ตามต่อตอนที่ 22นะครับ
(ขออภัยที่หายไปนาน-มาก- เกือบเดือนเลย คิดถึงทุกท่านครับผม สถานการณ์โพสตอนนี้คงยังไม่แน่นอนนะครับ ขอบคุณที่ติดตาม)

                                                                                    -Itsara P. FallenVerSa-

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น