จิตอิสระ
บทที่ 4: ซึมซับ ตอนที่ 22 โดย อิสระ
ติ๊ดดด....
เสียงแหลมสูงแว่วมาจากข้างขวา
ติ๊ดดด...
เหมือนดังนาฬิกาปลุก
กิตติค่อยๆลืมตาที่หนักอึ้งออกมาช้าๆ แสงไฟสีขาวสว่างจ้าอยู่ตรงใบหน้าพอดี น้ำตาถูกหลั่งออกมาเพื่อลดอาการแสงแยงตาของกิตติ
ทำให้มองอะไรไม่ชัดไปกว่าเก่าอีก
“มะ...
หมอคะ” เสียงหวานๆดังมาจากอีกข้างหนึ่ง กิตติกลอกตาไปทางซ้าย เห็นภาพหญิงสาวชุดพยาบาลสีขาวยืนถือรายงานพร้อมปากกาอย่างเลือนลาง
เธอกำลังหันไปด้านหลังเหมือนจะคุยกับใครอีกคน
“ผู้ป่วยรู้สึกตัวแล้วค่ะหมอ”
กิตติได้ยินเธอพูด ในขณะที่เปลือกตาของเขาเลื่อนลงมากลบดวงตาให้มืดมัวอีกครั้งนึง
กิตติหันหัวไปอีกข้างกลับเห็นสายต่างๆระโยงไปมาจากตัวเขาสู้เครื่องมากมายที่แสดงหน้าจอสีเขียวสีส้ม
มีหน้าปัดบอกตัวเลขที่เขาไม่สามารถทำความเข้าใจได้เลย
แต่ดูเหมือนมันจะทำให้เขาสามารถปิดตาลงได้โดยไม่มีข้อกังขาใดๆทั้งสิ้น
…
-วิหค ช่วยผมด้วย วิหค-
-อ๊อกกกก
อ๊าก -
-มัจฉาเรียกวิหค
ต้องการกำลังไปที่ประตู4ด่วน-
-จากสมิง วิหค
คุณและลูกทีมอยู่ที่ไหน -
-........-
-นี่มันตัวอะไรวะ-
-ยิงมันสิ
เหวอออ-
-อ๊ากก -
-กาเหว่ากับนิลถูกมันจับไปแล้ว-
-พี่กิตติ
ช่วยผมด้วย-
...
“เหี้ยย!!!”
กิตติสะดุ้งตัวลุกพรวดดวงตาเบิกโพลง
ยังไม่ทันจะมองอะไรได้ชัด แต่รู้สึกได้ถึงอันตรายที่อยู่เบื้องหน้าเอื้อมมือซ้ายไปคว้าก็จับยึดบางอย่างได้
ถึงงัดมือขวาอย่างรวดเร็วเพื่อที่จะจู่โจมเป้าหมาย
“กรี๊ดด”
“เหวอะ!!!” กิตติชะงักมือขวาก่อนที่จะถึงใบหน้างามนั้นเพียงไม่กี่เซน
หญิงสาวพยาบาลคนนั้นหลับตาปี๋ตัวสั่นระริก
พอเธอไม่ได้โดนทำร้ายอย่างที่คิดไว้ก็ค่อยๆลืมตาขึ้นมองกิตติที่จ้องเธอตาปริบๆ
กิตติจ้องดวงตาสีดำกลมโตที่หวาดกลัวนั้นอย่างตกตะลึง
ดวงตาคู่นั้นเหมือนกำลังทำให้ใจที่ร้อนรุ่มของเขาดับลงอย่างไร้หนทางดิ้นรน
หยาดน้ำตาที่เกาะขอบดวงตานั้นไหลลงจากดวงตาช้าๆไปตามใบหน้าที่ขาวผ่องผ่านพวงแก้มที่ได้รับการตกแต่งด้วยสีแดงอ่อนๆและริมฝีปากเล็กๆสีชมพูอ่อนที่เม้มหนักเพราะอาการเกร็งจัด
ทุกสิ่งที่กิตติเห็นทำให้เขาฟื้นจากฝันแล้วกลับถูกจองจำในภวังค์แห่งเสน่หา
“คุณ...”
กิตติร้องอย่างตกใจหลังจากจ้องตากันได้สักพัก
และจู่ๆใบหน้าของกิตติก็หันไปด้านขวาอย่างรวดเร็วพร้อมกับความรู้สึกชาๆที่แก้มและเสียงดังวิ้งที่ใบหูขวา
“ไอ้คนบ้า”
สาวพยาบาลผู้นั้นร้องทั้งน้ำตาและขยับตัวถอยห่าง มือทั้งสองกุมทรวงอกตนผ่านเสื้อที่มีรอยยับอย่างหวงแหน
กิตติหันกลับมามองจึงเข้าใจได้ทันทีว่าสิ่งที่มือซ้ายเขาขย้ำไปอย่างรุนแรงนั้นคืออะไร
“คุณ ผมขะ”
กิตตินึกจะขอโทษแต่พยาบาลคนนั้นก็สะบัดหน้าวิ่งหนีไปเรียบร้อยแล้ว ทิ้งให้เขานั่งอยู่บนเตียงมองประตูห้องปิดดังโครม
กิตตินั่งจ้องประตูราวกับกำลังปรับความคิดได้ไม่นาน
ประตูก็เปิดออกมาพร้อมร่างชายสูงยาวสวมแว่นตาในชุดกาวน์สีขาวเดินเข้ามาพร้อมกับบันทึกรายงานในมือ
“คุณกิตติ
รู้สึกตัวแล้วใช่มั้ยครับ” หมอพูดขณะจ้องหน้าเขาและหันไปดูเครื่องต่างๆที่อยู่ด้านขวากิตติ
“อืม...
ทุกอย่างปกติ ไหนผมขอเช็คอาการขาขวาหน่อยครับ” หมอพูดแล้วเลิกผ้าห่มขึ้น
กิตติหันลงไปมองขาขวาตนก็ต้องตกใจเพราะมีเฝือกปูนพลาสเตอร์สีขาวห่อหุ้มตั้งแต่เหนือหัวเข่าลงไปยันฝ่าเท้า
ราวกับใส่รองเท้าบู๊ทไว้
“นี่ผมเป็นอะไรไป”
กิตติถามขณะกำลังนึกถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมา
ภาพของลูกทีมและแสงไฟจากไกปืนก็แวบเข้ามาในหัว
“คุณหลับไปสามวันหลังจากที่เราพาคุณไปผ่าตัดเอาเศษเหล็กและหินออกจากกระดูกขาขวา
ผมไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น
แต่ทั้งทีมของคุณเท่าที่ทราบมาคุณเหลือรอดอยู่คนเดียวเท่านั้น
“ฮะ
อะไรนะหมอ” กิตติร้องเสียงหลง
“เอ่อ...
หมอขอตัว เดี๋ยวให้พยาบาลมาเช็กความดันและเปลี่ยนยาฉีดเข้าเส้นเลือดนะครับ”
หมอหันหน้าหนีราวกับรู้สึกผิดที่บอกความจริงไป
พยาบาลสองคนก็เข้ามาแทนที่สลับกับหมอที่ออกไป
มาตรวจวัดความดันและเปลี่ยนเอายาน้ำมาแทนถุงน้ำเกลือ
“ผู้กองสมิง...”
กิตติ พูดกับตนเองขณะที่พยาบาลกำลังแกะเครื่องมือวัดความดันให้เขา
“คะ?..”
พยาบาลถามเขาเพราะไม่เข้าใจที่เขาพูด
“ผู้กองดำอยู่ไหน” กิตติถามเสียงดังทำเอาพยาบาลข้างหน้าเขาตกใจ จนทำเอาเครื่องมือแพทย์หล่นจากมือ
กิตติสะบัดแขนแล้วกัดฟันแกะสายน้ำเกลือออกจากข้อมือ
ผลักพยาบาลอีกคนที่จะเข้ามาห้าม ก่อนเดินกะเผลกไปยังประตูห้อง
“ผมอยู่นี่”
เสียงดังจากประตูห้องพร้อมๆกับที่มันเปิดออกมา
ชายหนุ่มหน้าคมในชุดเครื่องแบบตำรวจเดินเข้ามาพร้อมกับซัดหน้าของกิตติจนหงายไปด้านหลัง
ทำเอาพยาบาลสาวน้อยคนเดิมที่เดินตามมาด้านหลังตกใจ
“ว๊าย ผู้กองดำ ทำเกินไปแล้วนะคะ”
พยาบาลที่อยู่ในห้องร้องว่าใส่ ขณะนั่งลงไปดูอาการของกิตติที่หมดสติอย่างรุนแรง
“นี่แหละที่จะทำให้คุณกิตสงบลงได้”
ผู้กองดำพูดขณะลูบหมัดตนเองป้อยเพราะเจ็บที่ต้องไปซัดหน้าแข็งกระด้างของกิตติ
“ให้หมอเอาเตียงคนบ้าแล้วจับมัดมันเหอะ
เดี๋ยวมันก็ตื่นมาอาละวาดอีก” ผู้กองดำพูดขณะมองร่างไร้สตินั้นด้วยสายตาที่อ่อนลง
“หัวหน้าที่เสียลูกทีมไปต่างอะไรกับสูญเสียอวัยวะสำคัญหรอก”
แล้วเขาก็เดินออกไปทิ้งให้กิตตินอนอยู่ตรงนั้นโดยมีพยาบาลพยายามหามร่างเขา
กิตติกำลังจมอยู่ในห้วงความฝันที่สยดสยอง
เขาเห็นร่างของกางเขนที่ตามหาถูกแยกชิ้นส่วนกระจายไปตามพื้น
กาเหว่าลูกทีมคนสนิทห้อยอยู่ตรงบันได ลำคอมีรอยถูกเจาะ
มัจฉาหัวหน้าชุด2พยายามคลานไปคว้าปืนกลเบาทั้งๆที่เหลือแต่ท่อนบน
และเจ้าหนวดยักษ์สีดำ ที่เจาะเข้าขาขวาจนทะลุ
มันกำลังชอนไชเข้ามาในร่างกายราวกับมือที่ล้วงเข้าไปในถุง
สร้างความเจ็บปวดแทบสิ้นลมหายใจ ก่อนที่เขาจะขาดสติไป
จบตอนที่ 22 อ่านต่อ 23นะครับ
(สยดสยองได้ใจเลย ฮ่าๆ
ตอนนี้กำลังติดนิยายของคุณAkisaอย่างแรง
อยากอ่านเรื่องก้อยตอนใหม่ไวไว ติดตามผลงานของผมได้ที่ fallenversa.blogspot.com นะครับ)
Itsara P. FallenVerSa
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น