จิตอิสระ บทที่ 3: ครอบงำ ตอนที่ 20 โดย อิสระ
(มา จัดหนักกันเลยครับสำหรับตอนนี้หุหุ)
“อึ๊กกกก...”
จีเซลล่าร้องเสียงดังขณะที่ร่างกายเธอกระตุกอย่างแรง ราวกับถูกกระแทกจากที่นั่งในรถสีหน้าบ่งบอกความเจ็บปวด พลันบิดร่างกายไปมามือปัดป่ายไปทั่วทั้งตัว เอกพันธ์ถึงกับสะดุ้งตามเสียงนั้นเกือบจะหักพวงมาลัยเหยียบเบรคตามสัญชาติญาณ
“นี่เธอ เป็นไร!!!” เอกพันธ์ร้องถามอย่างตกใจพลันเหลือบหันมามองก็เห็นสีหน้าทรมานของเธอ มือทั้งสองกำเบาะที่นั่งรถไว้จนเบาะหนังยืดตัวออกตามแรงบิด พลางมองหน้าเอกพันธ์ด้วยอารมณ์เจ็บปวด
“ข้าหายใจไม่ได้... อาการนี้มาอีกครั้ง” จีเซลล่าพูดราวกับถูกบางอย่างอุดไว้ในปาด ขณะที่เธอกำลังกัดฟันทนทรมานนั้นอยู่
“รีบ...พาข้า ไปที่พักของเจ้า...” จีเซลล่าพูดอีกครั้งด้วยน้ำเสียงที่ดูแข็งกร้าวมากกว่าเดิม จนเอกพันธ์รู้สึกได้ แต่เขายังมึนงงอยู่อย่างนั้น
“เร็ววว!!!”
สิ้นเสียงตวาด เอกพันธ์สะดุ้งโหยง เหยียบคันเร่งอย่างสุดเร่ง เครื่องยนต์รีบตอบสนองการกระตุ้นพุ่งตัวไปด้านหน้าอย่างรวดเร็วในขณะที่เลี้ยวหลบและแซงรถด้านหน้าไปมา จีเซลล่าถูกแรงเหวี่ยงรถเซไปมาจนต้องงอตัวลงเพราะไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ไม่นานนัก รถเก่งสีดำก็มาถึงหน้าประตูอัลลอยสลักลายวิจิตรงดงามตระการตาภายในพริบตาเดียว เอกพันธ์รีบกดรีโมทเปิดประตูอย่างรีบร้อน เพราะเมื่อเขาหันกลับไปก็เจอร่างของหญิงสาวนั้นนิ่งไปเสียแล้ว ดูเหมือนกับว่าไม่มีชีวิตอย่างไรอย่างนั้น พอประตูเลื่อนออกมาเปิดพอให้รถลอดผ่านได้ เอกพันธ์ก็รีบเหยียบพุ่งเข้าไปอย่างรวดเร็วจนผิวรถแทบจะเฉียดไปกับเนื้ออัลลอย แต่ไม่ได้อยู่ในความสนใจของเขา เพราะต้องขับรถเร่งสุดฝีเท้าบนถนนคอนกรีตยาวเกือบ500เมตรเพื่อตรงไปยังที่พักหลังคฤหาสน์
“นั่นเสียงรถใคร?”
อลิสสิตาถามแม่บ้านทันทีที่ได้ยินเสียงเครื่องยนต์รถดังกระหึ่มผ่านหน้าคฤหาสน์เธอไป สาวใช้วัยละอ่อนรีบแจ้นไปที่หน้าต่าง แล้วกลับมาบอกเธอด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น
“รถพี่เอกค่ะ คุณหนู”
“พี่เอก... “ อลิสสิตาพูดขึ้นอย่างเลื่อนลอย ก้มมองนาฬิกาข้อมือแล้วก็ทานอาหารต่อไป
‘นี่ นายว่าพี่เอกเขาเป็นอะไร ทำไมถึงเข้างานสายแล้วเร่งรีบขนาดนี้ อลิสไม่เคยเห็นพี่เอกเป็นอย่างนี้มาก่อน’ อลิสสิตากำหนดจิตถามเจนนูโดยไม่ต้องพูดออกเสียง ซึ่งนับเป็นการสื่อสารแบบใหม่ที่เธอเพิ่งได้เรียนรู้หลังจากที่เจนนูสอนเธอเมื่อเช้านี้เอง
‘ข้ามิอาจรู้ อาจจะมีเหตุใดเกิดขึ้นโดยไม่คาดคิดก็เป็นได้ จะว่าไปข้ายังนึกถึงเหตุเมื่อวานที่เกิดแสงประหลาดนั่นอยู่เลย’ เจนนูคาดเดา ขณะที่ยังนึกถึงแสงประหลาดนั่น แสงนั้นมันช่างคุ้นตาเหลือเกิน ราวกับเป็นแสงของการจุติใหม่ของพวกอมรา แต่ไม่น่าเป็นไปได้เพราะดาวโลกขณะนี้ต้องมีเพียงเขาตนเดียวเท่านั้น และไม่มีทางที่อมราตนใดจะได้รู้ว่าเขาอยู่ที่นี้แน่นอน แต่ยังไม่อาจคลายความสงสัยออกจากจิตใจไปได้ ในขณะที่อลิสสิตานิ่งเงียบตักอาหารใส่ปากก็นึกถึงแสงประหลาดนั้น รวมทั้งย้อนเหตุการณ์ไปอีกหน่อย ภาพของเส้นสายมากมายที่เล้าโลมปลุกปั่นให้สติขาดดิ้นก็ปรากฏขึ้น ทำเอาเธอเลือดในกายพลุ่งพล่าน ใบหน้าออกสีแดงทันที ขณะที่ร่องสวาทของเธอก็เกิดอาการบีบรัดรัวด้วยความรู้สึกเสียวซ่านนิดๆ เจนนูรับรู้อาการนั้นก็ยิ้มกระหยิ่มดีใจอยู่ในใจเงียบๆ
‘นายอ่ะ ทำอะไรก็ไม่รู้ ไม่ทันตั้งตัว’ อลิสสิตาตัดพ้อในใจ แต่ไม่มีเสียงตอบรับ เธอรับรู้ได้อย่างเดียวว่าเจนนูที่อยู่ในจิตใจเธอนั้นกำลังอารมณ์ดีจนแทบจะฮัมเพลงออกมาเลยล่ะ
ขณะเดียวกันที่บ้านพักของเอกพันธ์หลังคฤหาสน์
บ้านของเอกพันธ์นั้นได้ปลูกขึ้นจากความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่และมีน้ำใจของริชมอนต์ ผู้เป็นดั่งพ่อในใจของเอกพันธ์ ทั้งหลังสร้างจากไม้ซุงผ่าครึ่งและนำมาต่อกันเป็นชั้นๆทำให้ตัวบ้านนั้นนูนกลมตามแนวไม้เป็นชั้นๆดูมีชีวิตชีวาร่าเริง ยิ่งรวมกับสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยต้นไม้ยืนต้นน้อยใหญ่เพราะติดกับสวนหลังคฤหาสน์ทำให้เกิดบรรยากาศชีวิตที่มีความเป็นส่วนตัวดูรโหฐานแตกต่างจากในคฤหาสน์มากนัก ถึงแม้ว่าบ้านจะสร่างจากไม้และส่วนประกอบส่วนใหญ่จะดูไม่ทันสมัย แต่บ้านของเอกพันธ์กลับมีอุปกรณ์-เครื่องใช้ไฟฟ้าครบครันไม่ต่างกับชีวิตคนเมือง ดูแล้วอย่างกับที่เป็นบ้านในฝันของชายโสดจริงๆ
รถคันงามเบรกเสียงดังหลังจากพุ่งตัวผ่านทิวต้นไม้จนเกิดเสียงสลับกันไปมา เศษดินถูกล้อรถตะกุยขึ้นมาปลิวว่อนตามแรงลมสะบัดและแตกกระจายจนกลายเป็นฝุ่นคลุ้งไปทั่ว จากนั้นเอกพันธ์ก็รีบเปิดประตูออกมาแล้วไปดูอาการของจีเซลล่าอย่างรวดเร็ว
จีเซลล่า สาวสวยหุ่นสะคราญ ผู้มีดวงตาสีฟ้าใสดั่งฟากฟ้าที่สดชื่น ราวกับสามารถโอบกอดผู้ที่พบเห็นด้วยความอบอุ่นนุ่มได้ในวินาทีเดียวกันที่ประสานสายตา ในขณะที่เรือนผมของเธอนั้นเป็นสีน้ำตาลเข้มปนแดงช้างดูเร่าร้อนราวกับจะแผดเผาหัวใจของผู้พบเห็นให้หลอมละลายด้วยไฟราคะทันทีทีมันสยายออก ทั้งสองสิ่งนี้มันช่างเหมาะเจาะกับร่างเปล่งปลั่งอวบอิ่มอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ แต่ในขณะนี้เธอกลับนอนนิ่งเหยียดกายตะแคงตัวตามแนวที่นั่งหลังคนขับไม่ไหวติงใดๆทั้งสิ้น เอกพันธ์เริ่มออกอาการลนลานทั้งๆที่เขาไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรด้วย แต่คงเป็นเพราะสามัญสำนึกของเขาที่ทนเห็นใครเป็นอะไรต่อหน้าเขาไม่ได้ เอกพันธ์รีบเข้าไปในตัวรถ แล้วคว้าร่างนั้นขึ้นมาประคองไว้ เห็นใบหน้าซีดขาวของจีเซลล่าที่หลับตานิ่งไม่ไหวติงใดๆทั้งสิ้น ไม่มีการเคลื่อนไหวอะไรสักอย่าง ไม่มีแม้แต่ลมหายใจผ่านเข้าออกจมูกโด่งยาวงามนั่น
“ชิบหายละกู” เอกพันธ์สบถกับตนเองแล้วออกแรงอุ้มร่างหญิงสาวออกจากรถ ก่อนออกตัววิ่งไปยังบ้านของเขา ขึ้นบนไดตรงระเบียงบ้าน แล้วยกขาข้างหนึ่งถีบประตูบ้านออก ซึ่งไม่จำเป็นต้องฝืนมันเลยเพราะประตูนั้นเปิดออกได้ง่านดายอยู่แล้ว เอกพันธืไม่คิดจะล๊อคบ้าน ยังไงยังไงบ้านเขาก็ปลอดภัยอยู่แล้วเพราะอยู่ในวงล้อมของคฤหาสน์ริชมอนต์
แต่ยังไม่ทันที่เอกพันธ์จะได้ทำอะไร จู่มือของจีเซลล่าที่ทิ้งลงด้านล่างก็โอบคอเขาและออกแรงพลิกตัวเขาให้หมุนคว้างกลางอากาศโดยไม่ทันตั้งตัว วิสัยทัศน์ของเอกพันธ์นั้นหมุนกลับไปมา เขามองเห็นแต่ดวงตาสีฟ้าเจิดจ้าเป็นประกายของหญิงสาวอยู่เบื้องหน้า และทันทีนั้น ริมฝีปากของเขาก็ถูกสัมผัสจากเนื้อนุ่มๆที่แทรกเอาอวัยวะอุ่นนุ่มเข้ามาในปาก
โครมมม!!!
ร่างของทั้งสองเสียหลักลงพื้นและกลิ้งไถลไปจนสุดผนังบ้าน ยังดีที่เอกพันธ์ใช้พรมผู้พื้นจึงไม่บาดเจ็บ แต่สิ่งที่น่าแปลกใจไปกว่านั้นคือหญิงสาวที่แทบจะสิ้นใจนั้นกลับมีแรงราวกับชายฉกรรจ์ซึ่งกำลังจูบเอกพันธ์อย่างดูดดื่มจนสติของเขาแทบหลุดออกจากร่าง เอกพันธ์มองหน้าของจีเซลล่าด้วยความพิศวง หากเขาไม่ได้ตาฝาดไป เขาเห็นร่างของเธอนั้นกำลังเรืองแสงด้วยแสงสีฟ้าอ่อนๆทั้งตัว และดวงตาสีฟ้านั้นเจิดจ้าเสียเหลือเกิน ยังกับน้ำใสเย็นที่สัมผัสแล้วแผดเผาได้ในพริบตาเดียว
เอกพันธ์ได้สติครั้งหนึ่ง ก็พยายามจะผละออกจากริมฝีปากที่บดขยี้เขาอยู่เพื่อจะพูด แต่ก็ต้องหยุดอยู่แค่นั้นเมื่อสัมผัสมือนุ่มๆที่มาเกาะกุมท่อนกายไว้ และนวดมันจนตื่นตัว
‘ข้าต้องการมัน’
เอกพันธ์ได้ยินเสียงดังขึ้นในสมองที่ว่างเปล่าขณะประสานดวงตากับจีเซลล่า ไฟราคะกำลังแผดเผาหัวใจเขาจนกลายเป็นธุลีมลายสิ้น...
จบตอนที่ 20 อ่านต่อ 21 นะครับ
(จีเซลล่ากำลังจะกระทำชำเราหนุ่มดำซะแล้ว อย่าพลาดตอนที่ 21 นะครับ ฮ่าๆ ติชมได้นะครับ ขอบคุณ)
สารบัญ จิตอิสระ โดย อิสระ
-
▼
12
(29)
-
▼
เมษายน
(10)
- จิตอิสระ บทที่ 3: ครอบงำ ตอนที่ 11 โดย อิสระ
- จิตอิสระ บทที่ 3: ครอบงำ ตอนที่ 12 โดย อิสระ
- จิตอิสระ บทที่ 3: ครอบงำ ตอนที่ 13 โดย อิสระ
- จิิตอิสระ บทที่ 3: ครอบงำ ตอนที่ 14 โดย อิสระ
- จิตอิสระ บทที่ 3: ครอบงำ ตอนที่ 15 โดย อิสระ
- จิิตอิสระ บทที่ 3: ครอบงำ ตอนที่ 16 โดย อิสระ
- จิตอิสระ บทที่ 3: ครอบงำ ตอนที่ 17 โดย อิสระ
- จิตอิสระ บทที่ 3: ครอบงำ ตอนที่ 18: พานพบ โดย อิสระ
- จิตอิสระ บทที่ 3: ครอบงำ ตอนที่ 19 โดย อิสระ
- จิตอิสระ บทที่ 3: ครอบงำ ตอนที่ 20 โดย อิสระ
-
▼
เมษายน
(10)
10 เมษายน, 2555
จิตอิสระ บทที่ 3: ครอบงำ ตอนที่ 19 โดย อิสระ
จิตอิสระ บทที่ 3: ครอบงำ ตอนที่ 19
โดย อิสระ
9.00 น.
ชายผิวคล้ำในเสื้อเชิ้ตสีขาวยับเป็นรอย กำลังขับรถคันงามฝ่าฝูงรถอย่างรวดเร็ว เป้าหมายเบื้องหน้าคือคฤหาสน์ริชมอนต์อันเป็นทั้งบ้านและที่ทำงาน ในขณะที่เบาะหลังมีร่างสาวสะคราญในเสื้อคลุมนอนนิ่งอยู่ อันเกิดจากที่เอกพันธ์ขับชนเมื่อไม่กี่นาทีมานี้ เป็นเหตุการณ์ที่เขาไม่คาดคิดว่าจะเกิดขึ้นจริงๆ ราวกับทุกสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นเป็นดังความฝัน แต่จะฝันได้ไงล่ะ เมื่อเห็นร่างนั้นนอนหลับหายใจแผ่วๆอยู่ทนโท่
“เฮ้อ... จะเอาไงดีน๊า...” เอกพันธ์รำพึงพลางถอนหายใจเบาๆขณะสับเกียร์รถออกตัวเมื่อไฟเขียว อีกไม่กี่นาทีข้างหน้าเขาก็จะถึงคฤหาสน์แล้ว ความจริงเขาควรพาหญิงสาวที่เขาชนไปส่งโรงพยาบาล แต่เขากลัวจะไม่ทันเข้างานอีกทั้งดูจากสภาพแล้วยังไม่พบอาการบาดเจ็บใดๆจากร่างของหญิงคนนั้นเลย นี่เขาจะทำอย่างไรต่อไปดีล่ะ?
“อือ...ออ..” หญิงสาวครางเบาๆพลางขยับตัวทั้งที่ดวงตายังปิดสนิทอยู่ เอกพันธ์สะดุ้งเล็กน้อยหันไปมองร่างหญิงสาว เห็นเธอบิดตัวเอามือขวาลูบที่สะโพกเบาๆราวกับคลำแผล เขาจึงหักพวงมาลัยจอดรถข้างทางทันทีเพราะต้องดูอาการบาดเจ็บ
เอกพันธ์จอดรถ เข้าเกียร์ว่างและดึงเบรกมือไว้ ก่อนจะเปิดประตูลุกไปดูอาการ เมื่อเข้าออกมาและเปิดประตูคนนั่งด้านหลังออก ก็ประสานเข้ากับสายตาสีฟ้าใสจ้องอยู่ก็ถึงกับชะงักอยู่ตรงนั้น ราวกับมีเชือกล่องหนที่มองไม่เห็นมาตรึงร่างกายทุกส่วนให้อยู่กับที่ไปไหนไม่ได้ และยืนมองร่างของสาวสวยกำลังยันตนเองลุกขึ้นทั้งๆที่ยังจ้องมองเขาไม่กระพริบตา
“ที่นี่ ที่ไหน” เสียงใสๆเผยอออกจากริมฝีปากอวบอิ่มนั่น ทำเอาร่างที่แข็งทื่อของเอกพันธ์หลอมละลายไปในทันที เขาแทบจะเซลงกับตัวรถด้วยซ้ำหากมือไม่คว้าบานประตูไว้ ก่อนจะหายใจนำเอาอากาศเข้าไปในปอดดังเฮือกใหญ่ และเริ่มมองตามตัวเพื่อหาแผลหรืออาการบาดเจ็บ
“ที่นี่ ที่ไหน” เสียงของหญิงสาวดังขึ้นมาอีกครั้ง แล้วเธอก็ขยับตัวนั่งให้เรียบร้อย ทำให้เอกพันธ์สะดุ้งนิดหน่อย
“กรุงเทพ แถวประเวศ เธอมาจากไหน?” เอกพันธ์ตอบอย่างรวดเร็ว แต่เสียงตะกุกตะกัก “แล้วเป็นอะไรมากมั้ย”
“ข้า มาจากอมตะนครา กาแล็กซี่ฟอร์น๊อกซ์มาตามหาราชันย์ของข้า นามว่าเจนนู” หญิงสาวตอบก่อนดึงมือของเอกพันธ์ให้เข้ามาในตัวรถอย่างรุนแรง เอกพันธ์ไม่ได้ตั้งตัวก็ต้องปลิวตามแรงฉุดเข้าไปในรถอย่างแรงจนกระแทกเข้ากับร่างนุ่มนิ่มของเธอ เมื่อรู้ตัวอีกครั้งก็พบว่าแก้มทั้งสองกำลังแนบติดกับเนื้อหยุ่นๆใต้เสื้อคลุม เงยหน้าก็พบใบหน้าใสกระจ่างนั้นจ้องมองอยู่
“เจ้ารู้จักไหม?” หญิงสาวถาม แต่เอกพันธ์กลับตกใจ รีบผละออกและอุทานเสียงหลง ดวงตาเบิกโพลงหัวใจเต้นสั่นระรัวแทบจะออกมานอกผิวหนัง
“ว เหวอ... เธอเป็นอะไรเนี่ย!!!” เอกพันธ์ร้องอย่างตกใจเพราะเขาตั้งตัวไม่ทันกับเหตุการณ์ที่กระทบกระเทือนความรู้สึกนับสิบที่เข้ามาจู่โจมในคราวเดียวกัน
“ข้ามีนามว่า จีเซลล่า เป็นราชินีแห่งอมตะนครา เจ้าล่ะมีนามว่าอย่างไร เจ้ามนุษย์?”
ในหัวของเอกพันธ์นั้นไม่มีสิ่งใดๆอันก่อให้เกิดกระบวนการความคิดเหลืออยู่เลย ดวงตาของเขาจ้องมองจีเซลล่าด้วยสายตาว่างเปล่าไร้ความหมายแต่ยังเบิกโพลงค้างอยู่ จีเซลล่าสังเกตุพลางเบื่อหน่ายในอารมณ์แล้วยื่นมือไปเขกกระโหลกชายหนุ่มเบาๆ
“โอ๊ะ!!! นี่เธอ ทำผมทำไมเนี่ย???” เอกพันธ์สะดุ้ง กระเถิบตัวหนีอีกครั้งเอามือขวาลูบหัวที่โดนเขก
“ถามไม่ตอบสักครั้ง ข้าถามว่าเจ้ามีนามว่าอย่างไร” จีเซลล่าถามอีกครั้งด้วยน้ำเสียงรำคาญปนยั๊วะนิดๆ
“เอก...เอกพันธ์ เธอ...”
“จีเซลล่า บอกไปสองคราแล้วนั่น เจ้ามิรู้จักฟัง”
“จีเซล... ฮะ??? แล้วเธอ... อะไร... ยังไง...”
คราวนี้ถึงตาจีเซลล่าถอนหายใจบ้าง ตาเหลือบไปด้านบนอย่างไม่สบอารมณ์ก่อนที่จะจ้องมองเอกพันธ์อย่างมุ่งร้าย แล้วคว้าเข้ากลางเป้าของเขาอย่างรวดเร็ว
“พาข้าไปที่ไหนก็ได้ ข้าจะเล่าให้ฟังทีหลัง” จีเซลล่าออกคำสั่งพลางขยำบีบเจ้าท่อนเนื้อนั้นไปมา ทำเอาเอกพันธ์หายใจไม่ทั่วท้องเพราะรสสัมผัสที่แสนสุดจะบรรยายนั่น แต่ไม่ทันไรเขาก็ได้สติกระเด้งตัวออกจากที่นั่งอย่างรวดเร็วและปิดประตูลงมานั่งที่นั่งคนขับอย่างว่องไว
“เธอ...” เอกพันธ์หันไปมองจีเซลล่าด้วยดวงตาหรี่ข้างนึงเหมือนกำลังคิดพลางชี้หน้าราวกับจะพูดอะไรบางอย่าง
“อย่าถามข้า ณ ตอนนี้ จงพาไปที่พักของเจ้า” จีเซลล่าออกคำสั่งอีกครั้งพลางมองด้วยดวงตาถลึงออกมาขณะทำมือเหมือนจะขยำอะไรบางอย่าง เอกพันธ์มองมือนั้นแล้วรีบหันกลับไปออกรถอย่างรวดเร็วด้วยอาการขนลุกซู่ ขณะที่ภาพของหน้าอกนุ่มๆและสัมผัสของมือนั้นยังฝังอยู่ในหัวส่งผลให้ท่อนกายของเขาแข็งขึ้นมาอย่างลืมตัว
จบตอนที่ 19 อ่านต่อ 20 นะครับ
พานพบ เพียงเพื่อ พลัดพราก
จรจาก จำใจ จารจด
มากมาย มักมอด ม้วยหมด
แผ่วพจน์ ผูกพัน ผ่านพ้น
(ผ่านมาพบ งามหมดจด ลิ้มรสรัก ลงรอยปัก สลักจิต พิสมัย
ราวกับฟ้า ขีดชะตา ส่องครรลัย ให้ดวงใจ สองเรานั้น ได้ผูกพัน
ผมแต่งเองไม่ทราบว่าท่อนในวงเล็บนี้ได้อารมณ์มั้ยนะ ขอคำคอมเม้นท์ด้วย หากท่านใดต่อได้จะขอชมหน่อยแล้วกัน อิอิ ติชมได้นะครับ ขอบคุณ)
9.00 น.
ชายผิวคล้ำในเสื้อเชิ้ตสีขาวยับเป็นรอย กำลังขับรถคันงามฝ่าฝูงรถอย่างรวดเร็ว เป้าหมายเบื้องหน้าคือคฤหาสน์ริชมอนต์อันเป็นทั้งบ้านและที่ทำงาน ในขณะที่เบาะหลังมีร่างสาวสะคราญในเสื้อคลุมนอนนิ่งอยู่ อันเกิดจากที่เอกพันธ์ขับชนเมื่อไม่กี่นาทีมานี้ เป็นเหตุการณ์ที่เขาไม่คาดคิดว่าจะเกิดขึ้นจริงๆ ราวกับทุกสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นเป็นดังความฝัน แต่จะฝันได้ไงล่ะ เมื่อเห็นร่างนั้นนอนหลับหายใจแผ่วๆอยู่ทนโท่
“เฮ้อ... จะเอาไงดีน๊า...” เอกพันธ์รำพึงพลางถอนหายใจเบาๆขณะสับเกียร์รถออกตัวเมื่อไฟเขียว อีกไม่กี่นาทีข้างหน้าเขาก็จะถึงคฤหาสน์แล้ว ความจริงเขาควรพาหญิงสาวที่เขาชนไปส่งโรงพยาบาล แต่เขากลัวจะไม่ทันเข้างานอีกทั้งดูจากสภาพแล้วยังไม่พบอาการบาดเจ็บใดๆจากร่างของหญิงคนนั้นเลย นี่เขาจะทำอย่างไรต่อไปดีล่ะ?
“อือ...ออ..” หญิงสาวครางเบาๆพลางขยับตัวทั้งที่ดวงตายังปิดสนิทอยู่ เอกพันธ์สะดุ้งเล็กน้อยหันไปมองร่างหญิงสาว เห็นเธอบิดตัวเอามือขวาลูบที่สะโพกเบาๆราวกับคลำแผล เขาจึงหักพวงมาลัยจอดรถข้างทางทันทีเพราะต้องดูอาการบาดเจ็บ
เอกพันธ์จอดรถ เข้าเกียร์ว่างและดึงเบรกมือไว้ ก่อนจะเปิดประตูลุกไปดูอาการ เมื่อเข้าออกมาและเปิดประตูคนนั่งด้านหลังออก ก็ประสานเข้ากับสายตาสีฟ้าใสจ้องอยู่ก็ถึงกับชะงักอยู่ตรงนั้น ราวกับมีเชือกล่องหนที่มองไม่เห็นมาตรึงร่างกายทุกส่วนให้อยู่กับที่ไปไหนไม่ได้ และยืนมองร่างของสาวสวยกำลังยันตนเองลุกขึ้นทั้งๆที่ยังจ้องมองเขาไม่กระพริบตา
“ที่นี่ ที่ไหน” เสียงใสๆเผยอออกจากริมฝีปากอวบอิ่มนั่น ทำเอาร่างที่แข็งทื่อของเอกพันธ์หลอมละลายไปในทันที เขาแทบจะเซลงกับตัวรถด้วยซ้ำหากมือไม่คว้าบานประตูไว้ ก่อนจะหายใจนำเอาอากาศเข้าไปในปอดดังเฮือกใหญ่ และเริ่มมองตามตัวเพื่อหาแผลหรืออาการบาดเจ็บ
“ที่นี่ ที่ไหน” เสียงของหญิงสาวดังขึ้นมาอีกครั้ง แล้วเธอก็ขยับตัวนั่งให้เรียบร้อย ทำให้เอกพันธ์สะดุ้งนิดหน่อย
“กรุงเทพ แถวประเวศ เธอมาจากไหน?” เอกพันธ์ตอบอย่างรวดเร็ว แต่เสียงตะกุกตะกัก “แล้วเป็นอะไรมากมั้ย”
“ข้า มาจากอมตะนครา กาแล็กซี่ฟอร์น๊อกซ์มาตามหาราชันย์ของข้า นามว่าเจนนู” หญิงสาวตอบก่อนดึงมือของเอกพันธ์ให้เข้ามาในตัวรถอย่างรุนแรง เอกพันธ์ไม่ได้ตั้งตัวก็ต้องปลิวตามแรงฉุดเข้าไปในรถอย่างแรงจนกระแทกเข้ากับร่างนุ่มนิ่มของเธอ เมื่อรู้ตัวอีกครั้งก็พบว่าแก้มทั้งสองกำลังแนบติดกับเนื้อหยุ่นๆใต้เสื้อคลุม เงยหน้าก็พบใบหน้าใสกระจ่างนั้นจ้องมองอยู่
“เจ้ารู้จักไหม?” หญิงสาวถาม แต่เอกพันธ์กลับตกใจ รีบผละออกและอุทานเสียงหลง ดวงตาเบิกโพลงหัวใจเต้นสั่นระรัวแทบจะออกมานอกผิวหนัง
“ว เหวอ... เธอเป็นอะไรเนี่ย!!!” เอกพันธ์ร้องอย่างตกใจเพราะเขาตั้งตัวไม่ทันกับเหตุการณ์ที่กระทบกระเทือนความรู้สึกนับสิบที่เข้ามาจู่โจมในคราวเดียวกัน
“ข้ามีนามว่า จีเซลล่า เป็นราชินีแห่งอมตะนครา เจ้าล่ะมีนามว่าอย่างไร เจ้ามนุษย์?”
ในหัวของเอกพันธ์นั้นไม่มีสิ่งใดๆอันก่อให้เกิดกระบวนการความคิดเหลืออยู่เลย ดวงตาของเขาจ้องมองจีเซลล่าด้วยสายตาว่างเปล่าไร้ความหมายแต่ยังเบิกโพลงค้างอยู่ จีเซลล่าสังเกตุพลางเบื่อหน่ายในอารมณ์แล้วยื่นมือไปเขกกระโหลกชายหนุ่มเบาๆ
“โอ๊ะ!!! นี่เธอ ทำผมทำไมเนี่ย???” เอกพันธ์สะดุ้ง กระเถิบตัวหนีอีกครั้งเอามือขวาลูบหัวที่โดนเขก
“ถามไม่ตอบสักครั้ง ข้าถามว่าเจ้ามีนามว่าอย่างไร” จีเซลล่าถามอีกครั้งด้วยน้ำเสียงรำคาญปนยั๊วะนิดๆ
“เอก...เอกพันธ์ เธอ...”
“จีเซลล่า บอกไปสองคราแล้วนั่น เจ้ามิรู้จักฟัง”
“จีเซล... ฮะ??? แล้วเธอ... อะไร... ยังไง...”
คราวนี้ถึงตาจีเซลล่าถอนหายใจบ้าง ตาเหลือบไปด้านบนอย่างไม่สบอารมณ์ก่อนที่จะจ้องมองเอกพันธ์อย่างมุ่งร้าย แล้วคว้าเข้ากลางเป้าของเขาอย่างรวดเร็ว
“พาข้าไปที่ไหนก็ได้ ข้าจะเล่าให้ฟังทีหลัง” จีเซลล่าออกคำสั่งพลางขยำบีบเจ้าท่อนเนื้อนั้นไปมา ทำเอาเอกพันธ์หายใจไม่ทั่วท้องเพราะรสสัมผัสที่แสนสุดจะบรรยายนั่น แต่ไม่ทันไรเขาก็ได้สติกระเด้งตัวออกจากที่นั่งอย่างรวดเร็วและปิดประตูลงมานั่งที่นั่งคนขับอย่างว่องไว
“เธอ...” เอกพันธ์หันไปมองจีเซลล่าด้วยดวงตาหรี่ข้างนึงเหมือนกำลังคิดพลางชี้หน้าราวกับจะพูดอะไรบางอย่าง
“อย่าถามข้า ณ ตอนนี้ จงพาไปที่พักของเจ้า” จีเซลล่าออกคำสั่งอีกครั้งพลางมองด้วยดวงตาถลึงออกมาขณะทำมือเหมือนจะขยำอะไรบางอย่าง เอกพันธ์มองมือนั้นแล้วรีบหันกลับไปออกรถอย่างรวดเร็วด้วยอาการขนลุกซู่ ขณะที่ภาพของหน้าอกนุ่มๆและสัมผัสของมือนั้นยังฝังอยู่ในหัวส่งผลให้ท่อนกายของเขาแข็งขึ้นมาอย่างลืมตัว
จบตอนที่ 19 อ่านต่อ 20 นะครับ
พานพบ เพียงเพื่อ พลัดพราก
จรจาก จำใจ จารจด
มากมาย มักมอด ม้วยหมด
แผ่วพจน์ ผูกพัน ผ่านพ้น
(ผ่านมาพบ งามหมดจด ลิ้มรสรัก ลงรอยปัก สลักจิต พิสมัย
ราวกับฟ้า ขีดชะตา ส่องครรลัย ให้ดวงใจ สองเรานั้น ได้ผูกพัน
ผมแต่งเองไม่ทราบว่าท่อนในวงเล็บนี้ได้อารมณ์มั้ยนะ ขอคำคอมเม้นท์ด้วย หากท่านใดต่อได้จะขอชมหน่อยแล้วกัน อิอิ ติชมได้นะครับ ขอบคุณ)
จิตอิสระ บทที่ 3: ครอบงำ ตอนที่ 18: พานพบ โดย อิสระ
จิตอิสระ บทที่ 3: ครอบงำ ตอนที่ 18 : พานพบ โดย อิสระ
(ตอนนี้ขอตั้งชื่อตอนนะ อิอิ)
8.00 น.
ชายผิวคล้ำในเสื้อเชิ้ตสีขาวยับเป็นรอย
กำลังนั่งกระสับกระส่ายอยู่ในรถเก๋งคันงามที่จอดค้างอยู่กลางถนนขนาด2เลนในซอยแห่งหนึ่งในกรุงเทพ
นี่ขนาดเขาขับมายังซอยทางลัดแล้วนะ
ยังจะต้องเจอกับคนที่มีความคิดแบบเดียวกับเขาที่จะลัดเส้นทางอยู่เต็มซอย
ไหนจะรถที่ถอยเข้าออกตามบ้านต่างๆอันคับแคบนั่นอีก
นี่เท่ากับว่าเขาต้องมาเผชิญกับวิกฤตการณ์รถติดครั้งยิ่งใหญ่ในซอกเล็กๆของเมืองกรุง
อะไรจะโชคร้ายขนาดนี้นะ เอกพันธ์รำพึงอยู่ในใจ
ในที่สุดจากความโมโหก็ดับลงด้วยความเบื่อหน่ายชีวิตแสนจะยุ่งยาก
เอกพันธ์ค่อยๆทิ้งตัวลงกับเบาะด้านหลังอย่างหมดแรง
พลางหลับตาเพื่อให้เปลือกตาสัมผัสกับดวงตาที่ร้อนผ่าวเพราะนอนหลับไม่เพียงพอ
หลับตาลงซักพักคงไม่เป็นไรหรอก เพราะยังไงเขาก็ต้องอยู่ที่เดิมอยู่แล้ว เขาคิด...
[i]...แอร์เย็นฉ่ำ
...ท่ามกลางบรรยากาศในรถที่เงียบสนิท
...ท้องฟ้าครึ้มๆที่ไม่ปรากฏแสงอุ่นใดๆสาดทะลุเมฆหนาทึบได้[/i]
สิ่งเหล่านี้กำลังทำให้เอกพันธ์เริ่มจมดิ่งลงสู่ห้วงนิทราลงเรื่อยๆ
ร่างกายของเขาอาจต้องการพักผ่อนจริงๆก็ได้
เอกพันธ์ย้อนไปคิดถึงเหตุการณ์เมื่อคืนในความฝัน
ร่างอ้อนแอ้นของหญิงสาวถูกเขาทะลวงจากด้านหน้า
และเจ้าเพชรประกบด้านหลังโยกท่อนกายเข้าออกรูทวารโดยไม่สนใจเสียงกรีดร้องของสาวน้อย
จนกระทั่งเสียงแห่งความเจ็บปวดจบลงและแทนทีด้วยเสียงครางแห่งความเสียว
มันคือช่วงจังหวะแห่งความหฤหรรษ์สำราญใจยิ่งนัก
เพชรและเอกพันธ์ก็สลับตำแหน่งกันและสลับรูลง ก่อนที่จะสำเร็จความใคร่อย่างสุขสม
เมื่อหันไปดูร่างสาวมิ้นท์ที่น่าสงสารด้านขวาก็พบว่าสาวเจ้านอนคว่ำหน้าลงอย่างสิ้นสติสมฤดีไปแล้ว
ส่วนเจ้าบ๋อยก็ลากตนเองกลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ก่อนที่เอกจะหลับลงไป
[b][size=5]ปี๊นนนนนนนนนนนนนนนนนนนน!!!!!!![/size][/b]
เอกพันธ์สะดุ้งพรวดจากเบาะรถราวกับถูกเข็มจิ้มหลัง
สายตาหรี่เล็กสู้กับแสงแดดที่สะท้อนสายตา
หันไปมองด้านหลังก็พบเจ้ารถเต่าสีครีมอ่อนจ่อหลังอยู่
พร้อมคนขับผู้ชายแก่สวมแว่นสี่เหลี่ยมสีดำจ้องมองเขาอย่างมีอารมณ์
เอกไม่ทันจะได้หันหลับก็ขึ้นเกียร์แล้วเร่งรถไปด้านหน้า
แต่เมื่อหันกลับมาได้ก็ต้องกระทืบเบรกอย่างแรง
แต่ก็ไม่ทันเสียแล้วกับบางสิ่งที่กระแทกรถเขาอย่างแรง
[b]ตึงงงง
[/b]
ตามมาด้วยเสียงกรีดร้องอย่างตกใจของผู้คนที่เดินผ่านไปมาในซอย
เอกหัวใจแทบหล่นลงไปในตาตุ่ม เขารู้ว่าเขาชนกับคนเข้าแล้ว
ด้วยความรีบเร่งและไม่ได้มองด้านหน้าเพราะไม่คิดว่าจะมีใครเดินตัดรถเขา
กระดูกสันหลังเย็นวาบราวกับถูกสาดด้วยน้ำเย็น
และด้วยความคิดที่รวบรวมมาได้อย่างรวดเร็ว เอกพันธ์รีบเปิดประตูรถออกมา
ไม่สนใจแม้ว่ามันจะกระแทกกับกำแพงรั้วบ้าน
เขารีบวิ่งมายังหน้ารถอันเป็นจุดเกิดเหตุ
“ตายล่ะไอ้หนุ่ม ขับรถไม่ดูเลย” เสียงยายซึ่งยืนดูเหตุการณ์พูดอย่างขบขันขณะเอกพันธ์เดินผ่านไป
ซึ่งเขาไม่สนอยู่แล้ว ผู้คนเริ่มสนใจเหตุการณ์อย่างรวดเร็ว
เมื่อเอกพันธ์เดินไปถึงก็พบร่างอรชรของหญิงสาวนอนตะแคงคว่ำหน้าอยู่
ไม่ไกลจากหน้ารถนัก เอกพันธืตรงเข้าไปพลิกร่างนั้นหงายขึ้นมาทันที
“คุณ เป็นอ....”
หากเอกพันธ์ไม่ได้ตาฝาดไป
เขาต้องขอเดิมพันด้วยลมหายใจเฮือกนั้นที่ขาดช่วงไปได้เลยว่า
เขาไม่เคยพบสาวใดจะงามหมดจดเช่นนี้มาก่อน ทั้งโครงหน้าที่เปล่งปลั่งออกน้ำนวลสดใสแม้จะไม่ขาวผ่องเป็นยองใย
แต่กลับดูมีเสน่ห์อย่างประหลาดล้ำลึก
อีกเส้นผมที่เข้มแดงแฝงความร้อนแรงอยู่ด้านในราวกับจะทำให้ใจเขาละลายได้เพียงแค่เส้นผมปลิวไหวตามแรงมือ
ริมฝีปากนั้น มันช่างอวบอิ่มเย้ายวนเสียเหลือเกิน
ชมพูอ่อนสั่นระริกเบาๆราวกับยั่วให้ไปบดขยี้ในสิ้นเสียเดี๋ยวนั้น
เอกพันธ์เผลอใช้มือลูบเรียวหน้าอย่างไม่รู้ตัว
ก่อนที่จะรู้สึกตัวเพราะเสียงแตรรถเต่าคันเดิม
แล้วพยุงร่างของหญิงสาวขึ้นอย่างรวดเร็ว
“หนุ่ม จะไปไหนน่ะ” ยายร้องถามทันทีที่เห็นเขาอุ้มร่างหญิงสาวขึ้นรถ
“ไปโรงบาล ยายหลบไป” เอกพันธ์พูดหลังจากทิ้งร่างหญิงสาวให้นอนตรงที่นั่งด้านหลัง
แล้ววิ่งอ้อมไปด้านหน้า แล้วออกรถไปทันที
จบตอนที่ 19 อ่านต่อ 20 นะครับ
(บ๊ะ เจ๊จีเซลล่ามาแล้วนะ ฮ่าๆ วันนี้มีความสุขจังที่มีคนเป็นห่วง THXะ ติชมได้นะครับ)
จิตอิสระ บทที่ 3: ครอบงำ ตอนที่ 17 โดย อิสระ
จิตอิสระ บทที่ 3: ครอบงำ ตอนที่ 17 โดย อิสระ
-กลับมาที่ คฤหาสน์ริชมอนต์-
อลิสสิตานอนทอดกายอยู่บนที่นอนหนานุ่มท่ามกลางห้องนอนอันสวยหรูวิจิตรอยู่คนเดียว
สายตาจ้องมองไปที่ความมืดอันว่างเปล่าอย่างเลื่อนลอย
พลางครุ่นคิดไปมาอย่างว้าวุ่นจนนอนไม่หลับ
เพราะเธอกำลังสับสนกับสิ่งที่เธอเป็นและกระทำอยู่ในปัจจุบัน
และยังไม่สามารถปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ปัจจุบันได้อย่างเต็มที่
เพราะสิ่งต่างๆนั้นได้เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วภายใน24ชั่วโมงที่ผ่านมา จนดูเหมือนกับว่าเธอตื่นมาอีกครั้งบนฝันร้ายที่ซ้ำซ้อนความฝัน
แต่ก็ยังรู้สึกดีอยู่เล็กๆที่มีผู้คอยบำบัดอาการเศร้าและเครียดด้วยการกระตุ้นต่อมเสียว...
แต่มันก็ทำให้เธอคิดมากไปอีก เพราะตั้งแต่เล็กจนโต
เธอไม่เคยถูกล่วงล้ำทางเพศถึงขนาดนั้นมาก่อนเลย อีกนิดเดียวเธอก็จะถูกกระทำภายในอยู่แล้ว
ถ้าไม่เกิดเหตุการณ์แสงประหลาดนั่นเสียก่อนนะ
‘อย่าคิดมากเลยแม่สาว
ข้าเพียงแค่ชั่ววูบเท่านั้น นอนเสียเถิด’ เจนนู
ซึ่งบัดนี้เปรียบเสมือนชุดที่เธอสวมใส่ตลอดเวลาไปแล้วกล่าว
หลังจากที่รับรู้ความคิดของอลิสสิตาได้
“อลิส สับสนไปหมดแล้ว... อลิสไม่รู้ว่าตัวเองจะต้องทำอะไรดี
อลิส...ไม่รู้สิ...” เธอกล่าวสั้นๆแล้วเงียบไปอีกอึดใจ
ไม่มีเสียงใดๆเล็ดลอดออกมาจากริมฝีปากน้อยๆนั้นอีก
เหลือไว้แต่เสียงลมจากเครื่องปรับอากาศกระทบผ้าม่านจนไหวไปมาราวกับเต้นรำเพลงจังหวะช้าๆอย่างแผ่วเบา
แสงจันทร์หลังคืนเดือนมืดเริ่มฉายแสงออกมาบ้างแล้วถึงแม้จะน้อยนิด
แต่ก็พอเห็นใบหน้านวลผ่องของอลิสสิตาที่นอนมองเพดานต่อไปเรื่อยๆ
...
“ทำไม...”
.....
“ทำไมเราถึงมาเจอกัน?” อลิสสิตาถามขณะดวงตายังมองอยู่ที่เดิม
‘...ข้าไม่เข้าใจที่เจ้าพูด...’ เจนนูพูดอย่างสงสัย เพราะฟังดูคำพูดนั้นไม่มั่นใจเหลือเกิน
“ก็... ทำไมเมื่อคืนเจนนูต้องตกลงมาใส่อลิส
แล้วทำไมเรื่องราวต่างๆถึงต้องเป็นแบบนี้...มันยังกับ...ฝันเลย” เธอเอ่ยขึ้น น้ำเสียงสั่นไหวเล็กน้อย
‘ข้าไม่อาจรู้ได้... ข้าเดินทางมายังโลก
เพราะข้าเจอภาพในความฝันปรากฏอยู่บนข้อมูลที่ข้ารับใช้มอบให้ข้า
แต่ข้าไม่สามารถเกิดใหม่เพื่อปรับให้เข้ากับโลกเจ้าได้
ข้าเลยต้องอาศัยตัวเจ้าอยู่เช่นนี้’ เจนนูอธิบายอย่างละเอียด
แต่อลิสสิตาก็ยังคงอยู่เช่นเดิม
“แล้วเจนนูจะมาอยู่ถึงเมื่อไหร่กัน?”
“จนกว่าร่างหยาบจะเสร็จสมบูรณ์
ข้าคาดการณ์ล่วงหน้าแล้วในอีก 1 อาทิตย์ ร่างของข้ากับเจ้าจะแยกออกจากกัน
เมื่อถึงเวลานั้น ข้าจะไม่รบกวนเจ้าอีก” เจนนูตอบด้วยน้ำเสียงเรียบผิดปกติ
จนคล้ายกับว่าไม่พอใจในคำถามนั้น
และจากนั้นก็ไม่มีเสียงใดๆเล็ดลอดออกมาเลยจนถึงเช้า
-/-/-/-/-/-/-/-
“อึ๊ อึ๊..อ๊า...” ร่างเปลือยของหญิงสาวสะบัดเกร็งไปตามจังหวะอารมณ์
ขณะถูกชายแปลกหน้ายัดเยียดความเป็นชายให้
อย่างต่อเนื่องจนกระทั่งเขาระเบิดน้ำรักเข้าใส่อีกครั้ง
เต้านมอวบใหญ่สองข้างกระเทือนตามแรงอัดกระแทกนั้นแดงเป็นจ้ำเพราะถูกบีบอย่างหนัก
ทั่วร่างกายเต็มไปด้วยหยาดเหงื่อและคราบน้ำกามแห้งเกรอะกรังไปทั่ว เส้นผมสีแดงเข้มปนน้ำตาลยาวสลวยตอนนี้กระเซอะกระเซิงไปทั่วและย้อมไปด้วยน้ำกามจะติดกันดูยุ่งเหยิง
แต่ถึงกระนั้น
ดวงตาของเธอยังสดใสร่าเริงอยู่แม้จะผ่านพ้นค่ำคืนที่ยาวนานและชุ่มโชกไปด้วยเพลิงราคะนับร้อย
เจ้าชายหนุ่มทิ้งตัวลงนอนหอบข้างๆหลังถอนท่อนเนื้อของตนที่อ่อนตัวออกจากหลืบสวาท
ขณะที่จีเซลล่ายันแขนตนลุกขึ้นนั่งแล้วกวาดสายตาไปรอบๆมองร่างของชายนับสิบนอนหลับอย่างไร้เรี่ยวแรง
ในขณะที่เธอกลับดูสดชื่นมากกว่าเก่า
ราวกับการเสพกามนั้นสามารถทำให้เธอมีพละกำลังวังชาได้
จีเซลล่าลุกขึ้นอย่างคล่องแคล่ว คว้าเสื้อคลุมมาปิดร่างกายของตนไว้อย่างมิดชิดก่อนเดินออกจากห้องพักที่เธอแสวงหากามกิจตั้งแค่เมื่อคืน
-/-/-/-/-/-
“เอก ตื่นๆๆ” เสียงดังข้างหูชายหนุ่ม
เอกพันธ์งัวเงียลืมตาขึ้นมาก็พบเจ้าเพชรยืนเขย่าตัวเขาอยู่
เขาจึงยันตัวลุกขึ้นมาอย่างหมดแรง พอมองไปรอบๆก็พบว่าตนนอนอยู่บนเตียงในโรงแรมม่านรูด
ข้างๆพบหญิงสาวสองคนนอนสลบไสลไม่ได้สติอยู่
สถาพร่างกายนั้นทรุดโทรมต่างจากเมื่อคืนลิบลับ
ร่างเปลือยขาวนั้นฟกช้ำไปทั่วด้วยแรงบีบเค้น
เอกพันธ์รีบสวมเสื้อผ้าอย่างลวกๆคว้านาฬิกาข้อมือมาสวมและดูหน้าปัดบอกเวลาหกโมงเช้า
ซึ่งใกล้เวลาเข้าทำงานของเขา จึงรีบจัดแจงตนเองให้เรียบร้อยแล้วเดินออกไปพร้อมเพชร
กรุงเทพ ณ เวลา 7.30 น.
หลังจากที่เอกไปส่งเพชรที่คอนโดหรูของเขาก็ขับรถออกมาเพื่อที่จะตรงเข้าคฤหาสน์ริชมอนด์เพื่อเข้าทำงานตามปกติ
แต่ก็ต้องมาเจอรถติดกลางเมืองซึ่งเป็นเรื่องปกติและจะไม่รู้สึกรู้สาอะไรเลยถ้าเขาไม่ต้องรีบเร่งขนาดนี้
"ติดอะไรเยอะแยะวะ คนยิ่งรีบๆ"
เอกพันธ์บ่นคนเดียวอยู่ในรถ ทั้งๆที่แอร์ก็เปิดเย็นฉ่ำ
แต่กลับมีเหงื่อตกเพราะกลัวจะเข้างานไม่ทัน
ตั้งแต่เขาได้รับการชุบเลี้ยงจากนายริชมอนต์ซึ่งเก็บเขามาจากข้างถนน
เขาก็ได้รับการเลี้ยงดูอย่างดี ส่งเข้าโรงเรียนเพื่อไปเรียนหนังสือจนจบชั้นอุดมศึกษา(มหาวิทยาลัย)
และให้เขารับตำแหน่งเป็นผู้ดูแลคุณหนูอลิสสิตาบุตรสาวของนายริชมอนต์
รับเงินเดือนเพื่ออยู่กินสบายๆ พร้อมปลูกบ้านให้อยู่ส่วนตัวหลังคฤหาสน์
ซึ่งเขาไม่เคยทำให้ริชมอนต์ผิดหวังแม้แต่ครั้งเดียว เห็นทีคราวนี้คงจะลำบากแล้วกระมัง?
“ตายห่า เวรแล้วกู” เอกพันธ์สบถออกมาอีกครั้งเพราะเพิ่งรู้ว่าตนมาผิดเลน
แทนที่จะขับรถในเลยวิ่งทางตรง แต่กลับเข้าชิดซ้ายซะเฉยๆ ซึ่งเป็นเลนวิ่งผ่านตลอด
ครั้นจะหยุดรอไปเขียวเลนตรงก็ไม่ได้เพราะมีรถคันหลังจ่อติดอยู่
ซ้ำยังตำรวจจราจรยืนอยู่ตรงไฟจราจรพอดิบพอดี
จำเป็นต้องเลี้ยวซ้ายตามระเบียบอย่างขัดไม่ได้
เอกพันธ์หมุนพวงมาลัยเลี้ยวตามช่องทางสัญจรอย่างเบื่อหน่ายในอารมณ์
แล้วก็รู้สึกแทบบ้าเมื่อพบว่าเขาต้องมาต่อหลังรถนับร้อยนับพันหลังจากเลี้ยวเข้ามาได้ไม่ถึง10เมตร
“โว้ยยย
อะไรนักหนาวะ” เอกพันธ์ตะโกนร้องเสียงดัง
ใบหน้าขึ้นสีแดงก่ำด้วยความโมโห อยากจะทุบ
ทำลายทุกสิ่งทุกอย่างเบื้องหน้าทิ้งไปให้หมด ...
ซึ่งแน่นอนว่าทำไม่ได้อยู่แล้ว
น่าสงสารยิ่งนัก นายเอกพันธ์...
จบตอนที่ 17 อ่านต่อ 18 ครับ
(ขออภัยอย่างสูงที่ไม่ได้มาตามต่อผลงานตนเอง
เนื่องจากช่วง2อาทิตย์ที่ผ่านมาเจอมรสุมชีวิต จะรีบเร่งเขียนให้ต่อเนื่องนะครับ ติชมได้นะครับ
ขอบคุณ)
ขอบคุณคุณ [b][color=Magenta]areja[/color][/b]
ที่เป็นห่วงนะครับ ผมสบายดีครับผม อิอิ
จิิตอิสระ บทที่ 3: ครอบงำ ตอนที่ 16 โดย อิสระ
จิตอิสระ บทที่ 3: ครอบงำ ตอนที่ 16 โดย อิสระ
[b]นพ[/b] เพิ่งทำงานเป็นพนักงานประจำโรงแรมม่านรูดมาเป็นเวลา2เดือน
หลังจากผ่านการเกณฑ์ทหารมาใหม่ ด้วยความทุรกันดารของทางบ้าน
จึงผลักไสให้หนุ่มบ้านตะวันตกต้องมาอยู่ในกรุงเพื่อแสวงหาโชคชะตาให้กับตน
ที่ผ่านมาเขาก็เพิ่งเข้าตำแหน่งนี้ได้และเพิ่งปรับตัวให้เหมาะสมกับวิถีชีวิตชาวกรุงได้ไม่นาน
เขาไม่คิดเลยว่าจะต้องมาเจอสิ่งให่แปลกหูแปลกตาในค่ำคืนนี้
ภาพที่สะท้อนอยู่ในแก้วตาใสวาวของเขาคือหญิงสาว2คนที่งดงามไม่ต่างอะไรกับดาราต่างประเทศ
กำลังถูกชายหนุ่มสองคนมอบความสุขเต็มกระเบียดนิ้วอยู่อย่างเมามันส์
มันช่างเป็นภาพที่กระตุ้นปลุกเร้าความหฤหรรษ์ในใจเขายิ่งนัก
สร้างความปั่นป่วนทั่วทางเดินลมหายใจ สูบฉีดเลือดในกายจนพลุ่งพล่าน
ขับกล่อมประสาทสติสัมปชัญญะให้เด็กบ้านนอกอย่างเขาสิ้นสติอย่างลืมตัว
จนเขาเผลอเดินเข้าไปในห้องด้วยสายตาเหม่อลอย
“อ๊า อ๊ะ อ๊ะ เมียเสียว เมียเสียว...อ๊ะ
เสียวเหลือเกิน..... อ่า...” จี๊ดร้องครางขณะกำลังโยกเอวของตนบนร่างแกร่งผิวคล้ำของเอกซึ่งกำลังมองเต้านมของหญิงสาวที่กระเด้งตามแรงขับเคลื่อน
พร้อมกับเด้งเอวของเขาเสยเข้าร่องหลืบของหญิงสาวจังหวะเดียวกับที่เธอบดเข้ามาหา
“อ๊าส์ส์ส์” หญิงสาวร้องอุทาน ตาโต จ้องมองเอกอย่างเจ็บใจ
พร้อมกับขยับเอวเด้งสู้ด้วยแรงที่มากกว่าเดิม
ขณะเดียวกันสาวมิ้นท์ก็กำลังคุกเข้าแอ่นก้นทิ้งท่อนบนตนเองลงกับพื้นที่นอน
ปล่อยให้เพชรสาวท่อนเอ็นขนาดยาวแกร่งอย่างเมามัน ปากครางไม่หยุดกัดริมฝีปากตนเองบรรเทาความเสียวจนแทบห้อเลือด
“อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ พี่ขา แรงๆ มิ้นท์ชอบ อ๊ะ
อ๊ะ” เธอร้องไม่หยุดตั้งตารับแรงกระแทกอย่างเสียวสุดๆ
ทันใดนั้นเพชรก็เหลือบไปเห็นร่างใหญ่ฉกรรจ์ของเจ้าบ๋อยค่อยๆเดินเข้ามา
ตรงกลางหว่างขานั้นเกิดท่อนเอ็นยักษ์ปูดขึ้นมาเป็นทางยาวราวกับเอากระบอกไฟฉายใหญ่ๆมาซ่อนไว้อย่างไรอย่างนั้น
เพชรเห็นดังนั้นก็ตกใจตะลึงในความมโหฬารของเจ้าเด็กคนนั้น
พลางนึกสนุกกวักมือเรียกมันให้เข้ามาหา
“ไอ้น้อง เข้ามาเลย พี่แบ่งให้” เจ้าเพชรเอ่ยโดยไม่สนใจความต้องการของสาวมิ้นท์ที่ยังไม่รู้อิโหน่อิเหน่
เจ้านพได้ยินเสียงชักชวนก็ทำตามทันทีโดยไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น
ปลดเปลื้องอาภรณ์ของตนเองจนเปลือยอวดกล้ามเนื้อแข็งแรงที่ผ่านการทำงานตรากตรำอย่างหนัก
และที่สำคัญ...เจ้าเครื่องเพศแข็งแกร่งที่ใหญ่ยาวและชูชันนั่น
เป็นสิ่งแสดงความเป็นเจ้าโลกได้อย่างดี
เพชรรีบถอนท่อนเอ็นที่เล็กกว่าเจ้าบ๋อยอย่างรวดเร็ว
ทำเอามิ้นท์ครางเสียงดัง พยายามแอ่นเอวตามท่อนเนื้อราวกับกลัวมันจะหายจากเสีย
แต่ก็ต้องสะดุ้งสุดตัวจุกจนร้องไม่ออก เมื่อมีสิ่งใหม่กว่าเข้ามาแทนที ทั้งแน่น
ทั้งเจ็บ และจุกไปทั่วท้อง
“โอ้ยย..พี่เพชรเอาอะไรมา...โอ้ย อย่า จุก”
สาวมิ้นยายามยันตัวขึ้นเพื่อหันไปดูด้านหลัง
ก็ปรากฏมือสากข้างหนึ่งจับเอวเธอล๊อคไว้อยู่กับที่
อีกมือดันแผ่นหลังน้อยๆกดลงไปแนบเตียงไม่ให้ไปไหน
พร้อมกับส่งท่อนยักษ์มหึมาเข้าออกเจ้าร่องสวาทอันน่าสงสารนี้รวดเร็วอย่างเอาเป็นเอาตาย
เสียงเนื้อหน้าท้องของนพกระแทกกับก้นของมิ้นท์ดังตับๆๆดังไปทั่วห้อง
ในขณะที่เพชรออกจากที่นอนไปเปิดเบียร์ในตู้เย็นนั่งจิบที่โซฟาสบายใจเฉิบ
นั่งมองดูเกมส์กามอันแสนโหดร้ายและดิบเถื่อนอย่างพึงพอใจ
ปล่อยให้หญิงสาวที่เพิ่งเป็นคู่ขาตนเองนอนดิ้นทุรนทุรายร้องครางโอดโอยอย่างทรมานตรงนั้น
ส่วนจี๊ด เมื่อเห็นอาการดังกล่าวก็ต้องตกใจเมื่อเพื่อนของตนถูกกระทำโดยเจ้าคนแปลกหน้า
ถึงกับหน้าถอดสีจะลุกขึ้นจากที่นั่งทับอยู่
ปรากฏมีมือสองข้างจับเอวเธอล๊อคไว้ไม่ให้ไปไหน
เมื่อมองไล่หาที่มาก็เห็นเอกนอนยิ้มอย่างเย็นเยือกอยู่ และยังไม่ทันจะได้ตั้งตัว
เธอก็ถูกจับกดลงไปนอนแนบตัวเอกไว้ ส่งก้นขาวนวลขึ้นอวดสายตาอย่างน่าดูชม
เพชรอยู่ตรงนั้นพอดีพร้อมกับมืออีกข้างที่กำลังชโลมอะไรบางอย่างลื่นๆมันทั่วหัวหยักของเขา
และป้ายส่วนหนึ่งมายังปากทวารหนักของจี๊ด
“ยะ...อย่านะ...ไม่เอา จี๊ดกลัว...”
เธอร้องด้วยสีหน้าซีดขาว
เนื้อตัวสั่นเพราะรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับตนในไม่ช้า และเป็นดั่งคาด
เมื่อเยื่อหูรูดของเธอขยายตัวเพราะมีสิ่งแปลกปลอมบุกรุกล่วงล้ำเข้ามา
พร้อมกับสร้างความเจ็บปวดให้กับหญิงสาวอย่างล้ำลึกสุดจะทานทน
ยังดีที่พอมีเจลหล่อลื่นนั้นช่วยประคองความรู้สึกให้บั่นทอนลงได้อีก
พริบตาเดียวเจ้าท่อนเอ็นของเพชรก็เข้าไปในทวารของหญิงสาวจนมิด
เขาพอใจที่จะได้เห็นภาพนี้เป็นอย่างมาก
ด้วยความรู้สึกของหูรูดที่ขมิบตอดรัดอย่างรุนแรงยิ่งกว่าผนังช่องคลอด
และความฟิตที่รู้สึกได้ แทบทันให้น้ำแตกเสียให้ได้
เมื่อหันไปมองข้างๆก็เห็นสาวมิ้นท์นั้นถูกบ๋อยโหมกระหน่ำอัดแท่งทวนลงรูหลืบไปอย่างแรงจนเธอเปลี่ยนจากความเจ็บปวดเป็นเสียงร้องครางด้วยความเสียวและร้องซี๊ดด
ออกมาเป็นระยะๆ พอเห็นดังนั้นเพชรก็ออกอาการฮึกเหิม ดุจอาชาคะนองศึก
ออกแรงควบเอวของตนส่งท่อนเอ็นแข็งแกร่งเข้าออกรูทวารอย่างรวดเร็วโดยไม่สนเสียงร้องครวญครางของร่างบอบบางเล็กๆข้างหน้าตน
“อ่ออกก... อ่ะ.. “ จี๊ดร้องอย่างลืมตัว ตาเบิกโพลงเกร็งไปทั่วร่าง
น้ำตาไหลรินออกมาอาบแก้มทั้งสองข้าง ความเจ็บปวดพุ่งเสียดทั่วร่าง
ขณะที่ด้านหลังของตนมันเจ็บแสบราวกับเลือดเนื้อจะฉีกขาดออกจากกัน
[i] เกมส์กามหฤโหดนั้นดูท่าจะเพิ่งเริ่ม และไม่มีทางจบลงได้ง่ายๆ...[/i]
จบตอนที่ 16 อ่านต่อตอนที่ 17นะครับ
(โหดแล้วสิ ผม 555+
ขอบคุณ [b]moowarn[/b]
ขอบคุณ [b]areja[/b]
ขอบคุณ [b]N_M[/b]
ขอบคุณ [b]mudang555[/b]
ขอบคุณ [b]likestory [/b]
ขอบคุณ [b]nookylove[/b]
ขอบคุณ [b]sonorc[/b]
ขอบคุณ [b]thep59[/b]
ขอบคุณ [b]ppp4 [/b]
สำหรับการติดตามเสมอมานะครับ และ[b]ขอบคุณทุกท่านที่ไม่ได้เอ่ยถึงด้วย[/b] ขอบคุณจริงๆครับ ติชมได้นะครับ
ขอบคุณ)
จิตอิสระ บทที่ 3: ครอบงำ ตอนที่ 15 โดย อิสระ
จิตอิสระ บทที่ 3: ครอบงำ ตอนที่ 15 โดย อิสระ
เอกพันธ์ขับรถเก๋งสีดำของตนโดยมีสองสาวและเพชร
เพื่อนเขาอยู่ในรถโดยที่สาวจี๊ดนั่นกำลังคลุกเคล้าอย่างมัวเมากับเพชรที่หลังรถ
ส่วนมิ้นท์ก็นั่งอยู่ที่นั่งข้างคนขับ และก้มหน้างุดอยู่ที่เป้ากางเกงของเอกพันธ์
“ไม่ผิดหวังเลยนะคะเนี่ย พี่เอก “มิ้นท์กล่าวชมเจ้าของรถ ขณะผละออกจากเจ้าท่อนเนื้อลำใหญ่ชั่วครู่
น้ำลายของเธอผสมกับของเหลวที่หลั่งออกจากของเอกยืดจากขอบริมฝีปากบางสวยสีแดงสดมาเป็นสายยาวๆราวกับสายเครื่องดนตรีก่อนที่จะหายเข้าไปในปากของเธออีกครั้ง
เอกพันธ์เกร็งตัวเป็นบางจังหวะพลางเหยียบคันเร่งไม่สม่ำเสมอ
เลี้ยวไปมาตามอารมณ์เสียวขณะปากก็สูดครางเบาๆ
ส่วนสาวด้านหลังก็ดิ้นทุรนทุรายเพราะเจ้าเพชรไล่งับยอดหัวนมไม่หยุด
มือคว้าเอากลางหว่างขาหญิงสาวแล้วบี้อย่างแรง
จี๊ดไม่ได้ดิ้นหนีเพราะเธอไม่มีความสุข แต่เธอส่ายเอวไปมาสะบัดหน้าไม่หยุดเพื่อต้องการระบายความเสียวที่หลั่งไหลออกมาจนทะลัก
“พี่เพชร หยุดก่อนได้มั้ย จี๊ดไม่ไหวแล้วว”
สาวเจ้าครางเสียงดัง ปากร้องห้าม
แต่เอวนั้นเด้งเข้าใส่มือไม่ยั้ง เจ้าเพชรยิ้มดวงตาเป็นประกายเล็กๆอยู่ในความมืด
“อ๊ะ อ๊ะ อ๊า~~~..” เท่านั้น เธอก็แทบขาดใจ สูดปากไม่มีเสียง
ก่อนจะอ่อนระทวยทิ้งตัวลงพิงหลังชายหนุ่ม ดวงตาปิดจนสนิท เหลือเพียงลมหายใจแผ่วๆ
ครู่เดียว
รถเก่งคันงามก็วิ่งฝ่าแสงไฟเหลืองอำพันเข้าไปในโรงแรมม่านรูดใกล้สถานบันเทิง
พอเด็กเปิดม่าน ก็ขับรถเข้าจอด เจ้าเด็กประจำโรงแรมก็เดินเข้ามาหา
“2ชม.รึเปล่าครับ?” ชายหน้าเด็กไว้ผมสั้นถามหลังจากกระจกเลื่อนลง
และก็ต้องตกใจเมื่อเจอกับศีรษะหญิงสาวกำลังโยกขึ้นลงที่กลางตักคนขับ
“ค้างคืนเลย เอกพันธ์ว่า
แล้วก็ยื่นแบงก์พันให้ไป2ใบ ก่อนลุกขึ้นทันที ทำให้ท่อนเนื้อดีดออกจากปากหญิงสาว
น้ำลายกระจายเปรอะเบาะรถ สาวมิ้นท์มองตามอย่างเสียดาย แลบลิ้นเก็บน้ำที่เกาะขอบปาก
“ต่อกันในห้องนะจ๊ะ” เอกพันธ์พูด แล้วรูดซิบเก็บของตนเองก่อนเดินเข้าห้องไป
ทิ้งบ๋อยยืนตะลึงจนทำไรไม่ถูก
ท่อนเอ็นกลางลำตัวโตขึ้นจนตุงในกางเกงอย่างเห็นได้ชัด
“ไอ้นี่มันร้าย” เพชรลุกขึ้นออกจากรถ จูงมือสาวน้อยที่อยู่ในสภาพเสื้อหลุดลุ่ยจนเห็นเกือบหมดออกมาด้วย
หญิงสาวเดินตามแรงจูงพลางมองหน้าบ่อยด้วยตาหวานฉ่ำยิ้มอย่างเซ็กซี่ไม่ได้ปิดบังร่างกายแต่อย่างใด
ก่อนเข้าห้องไปและปิดประตูเสียงดัง
โรงแรมม่านรูดที่ด้านนอกตกแต่งปลูกสร้างตามปกติแต่ด้านในราวกับอยู่คนละโลก
ที่นอนที่ควรเป็นทรงสีเหลี่ยมกลับกลมมนอยู่กลางห้องที่ตกแต่งด้วยสีสันฉูดฉาดเพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าที่ต้องการสิ่งแปลกใหม่แหวกแนวในการเข้าพัก
...แต่คงไม่ใช่สำหรับ2คู่นี้
เอกพันธ์เดินเข้าห้องพร้อมสาวสวยผมบลอนด์
และตามมาด้วยเพชรซึ่งกำลังกึ่งอุ้มกึ่งลากสาวสวยหุ่นดีเสื้อผ้าหลุดลุ่ยเข้ามา
ไม่ทันจะได้จัดการธุระอะไรทั้งสิ้น ทั้งหมดก็กอดรัดฟัดเหวี่ยงกันอย่างชุลมุน
ชายหนุ่มทั้งสองคนพาสาวสวยลงไปยังที่นอน จับผ้าคาดที่นอนสะบัดออกไปด้านข้าง
แล้วเข้าฟัดร่างงามทั้งคู่
เอกพันธ์เข้าไซร็ซอกคอหญิงสาวในขณะที่เพชรกำลังลงลิ้นกับเต้านมอวบๆด้านขวา
สองสาวไม่มีอาการขัดขืนใดๆ ซ้ำยังจะสนับสนุนให้ลงมือมากขึ้นกว่าเดิม
“ซี๊ดด... พี่เอกขา... จี๊ดเสียวมากเลย
อ๊างงง” สาวเจ้าครางขณะถอดเกาะอกลงมาที่เอวด้วยตัวเองเผยให้เห็นเต้านมขนาดพอเหมาะ
ปลายยอดหัวนมเล็กนิดเดียวสีเนื้อดูกลมกลืนกับสีผิวจนแทบแยกไม่ออก จี๊ดทนทรมานจากซอกคอไม่ไหวโน้มคอชายหนุ่มให้ลงมาต่ำถึงหน้าอกตน
พร้อมแอ่นตัวบี้เข้าใส่หน้าของเอกพันธ์แนบชิดจนทำให้เขาหายใจไม่ออก
ส่วนเพชรกำลังสาละวนอยู่กับการฉกหัวนมไปมาขณะมือขวาตนก็อยู่ไม่สุข
ล้วงเข้าออกรูสวาทจนน้ำหล่อลื่นไหลออกมากระเซ็นไปทั่วผ้าปูที่นอนสีขาวสะอาด
สาวมิ้นได้แต่แอ่นเอวเข้าออกตามจังหวะนิ้วมือออกปากสูดครางราวกับกินพริกสักกำมือ
นอนเกร็งตัวหลับตาอยู่อย่างนั้น
เหมือนกับนัดกันล่วงหน้าแล้ว
เจ้าเอกและเพชรก็ลุกขึ้นยืนพร้อมถอดเครื่องแต่งกายของตนออกจนล่อนจ้อน
เผยให้เห็นร่างกายอันแข็งแรงกล้ามเนื้อกระชับทั่วร่างกาย เบื้องล่างเป็นท่อนกายแข็งแกร่งยาวราวหกนิ้วกว่าๆเหมือนกันทั้งคู่
ที่แตกต่างกันคือสีผิวของเอกที่คล้ำเพราะกรำแดดมาตั้งแต่เด็ก
และเพชรที่ขาวไปทั้งร่างกายยกเว้นอวัยวะเพศที่คล้ำนิดๆเพราะใช้งานบ่อยและปลายหัวหยักเป็นสีชมพูสดน่าดูชม
ทั้งคู่สวมถุงยางที่ทางโรงแรมแจกให้ก่อนจับสองสาวที่นอนตาฉ่ำเยิ้มเปลื้องผ้าออกจนหมดสิ้น
แล้วบรรจงหยอดของตนเองลงรูสวาทอย่างช้าๆ
“อะ..อูววว...อา... “สองสาวสูดปากครางด้วยความเสียวขณะจ้องมองท่อนเอ็นแต่ละอันเข้าช่องคลอดของตน
สาวมิ้น ทนทรมานไม่ไหวจับเอวของเพชรล๊อคแล้วกระแทกตนเองเข้าให้มิดด้ามก่อนกรี๊ดสั้นๆอย่างสะใจ
เพชรเองก็ตื่นเต้นเล็กน้อยที่เจอสาวร่านถูกใจเลยจัดให้เด้งเอวเข้าใส่และซอยเข้าออกอย่างรวดเร็ว
ส่วนเอกนั้นกลับลากของตนเข้าออกช้าๆรับรสแห่งความเสียวที่ค่อยๆซึมซับเข้ามา
สาวเจ้าสูดปากตามผิวท่อนเอ็นที่ครูดไปตามผนังช่องคลอดกระตุ้นให้ร่างกายขับน้ำออกมาหล่อลื่นมากมายจนแฉะเยิ้มออกมา
ตอนนี้ภายในห้องมีแต่เสียงกระแทกเนื้อเข้าใส่กันและเสียงครางของหญิงสาวทั้งสองดังทั่วห้อง
ทั้งสี่กำลังเพลิดเพลินอยู่ในกามารมณ์โดยไม่ได้สนใจว่าประตูที่ตนปิดนั้นได้ล๊อครึเปล่า...
เจ้าบ๋อยกำลังเดินกลับมาพร้อมน้ำเปล่าและผ้าเย็น
เมื่อคิดจะเคาะประตูก็ต้องตกใจกับเสียงครางกระเส่าของหญิงสาว
ถึงกับกลืนน้ำลายดังเอื๊อก
ท่อนเนื้อของตนที่สงบเสงี่ยมไปแล้วกลับฟื้นตัวแข็งตุงกางเกง
แล้วก็สังเกตเห็นประตูที่ปิดไม่สนิทเพราะกระแทกแรงเกินไปประกอบกับที่ลงล๊อดนั้นไม่ดี
เขาจึงค่อยๆแง้มประตูแล้วส่งสายตาลอดเข้าไปดู...
[img]http://108bigpic.com/upload/global/12-08/3uhz0lso.jpg[/img]
[img]http://sv1.up-img.com/upload/12-11/wg6weg00.jpg[/img]
จบตอนที่ 15 ครับ อ่านต่อ 16 นะครับ
(ช่วงนี้ไม่ค่อยมีเวลานั่งแต่งเลย
ขออภัยด้วยนะครับ และขอขอบคุณแรงบันดาลใจดีๆจากคุณ[b] N_M[/b]ด้วยที่ทำให้เนื้อเรื่องต้นๆของตอนนี้สำเร็จ อิอิ ขอบใจนะจ๊ะสาว urlเปลี่ยนแล้ว เอ้า ย้ายบ้าน!!! หุหุ ผมแต่งเองและจะโพสลงในhttp://www.naload.comที่เดียวเท่านั้นนะครับ หลังจากที่เวปบอร์ดย้ายมาจากzeedasia ติชมได้นะครับ
ขอบคุณ)
mso-� y i f �� P� y:
Calibri;mso-hansi-font-family:Calibri'>มันอุทานพลางปลดเข็มขัดออก
หลังจากเห็นใบหน้างามหมดจดเรียวสวยของหญิงสาว
หน้าอกขนาดใหญ่กลมกลึงคาดได้ไม่ต่ำกว่าคัพD หัวนมสีชมพูดสด เนื้อตัวดูเรืองแสงอย่างไรชอบกล
และเธอกำลังหายใจอย่างหอบๆ ดวงตาปิดสนิท
ไอ้ขี้ยาคุกเข่าลงเบื้องหน้าแล้วก้มตัวลงไปดูดหัวนมข้างขวาอย่างรุนแรงราวกับอดอยากมานานขณะใช้มือข้างหนึ่งเคล้นนมอย่างเอาเป็นเอาตาย
แล้วมันจับท่อนเนื้อของมันจ่อเข้ากลางเครื่องเพศแล้วแทงเข้าทีเดียวหมดลำ
“อ๊า..” ร่างหญิงสาวแอ่นสะโพกขึ้นขณะครางเบาๆทั้งๆที่ยังหลับตาอยู่ภายในตอดรัดสิ่งแปลกปลอมที่เข้ามาใหม่อย่างต่อเนื่อง
เจ้าขี้ยารู้สึกเสียวได้ทันทีแต่ยังคงทนได้จึงรีบเด้าเอวตนเองอย่างไวส่งท่อนเนื้อของมันขยับเข้าออกร่องสวาทนั้นไม่ยั้ง
กลีบแคมนั้นยู่ไปตามแรงกดของท่อนเนื้อและรูดขึ้นเมื่อท่อนเนื้อถอยออกดูเป็นภาพที่ระทึกใจยิ่งนัก
เพียงพักเดียวเท่านั้น
ไอ้ขี้ยาคนนี้ก็ทนไม่ไหวระเบิดน้ำขาวขุ่นเข้าไปในช่องคลอดอย่างรุนแรง
ก่อนทิ้งตัวลงไปฟุบคาอกอวบอึ๋มคู่งาม
[i]ทันใดนั้นจีเซลล่าก็ลืมตาขึ้น...[/i]
[img]http://44.imagebam.com/download/kiBVpn_XsjsO8j9ChYcwYw/17961/179603775/6.jpg[/img]
จบตอนที่ 12 อ่านต่อตอนที่ 13 นะครับ ขอบคุณ
[u][i] มองท้องฟ้าคืนนี้มีดวงดาว สุดสกาวราวนภาดูสดใส
ธรรมชาติรังสันหรืออย่างไร รวมไว้ในโลกาเวลาเดียว
ครั้นกลางวันดาวนั้นก็มืดบอด ไม่เล็ดลอดสาดแสงให้แลเหลียว
พอกลางคืนดาวระยับวับแววเชียว เมื่อแลเหลียววับวับระยับ
ธรรมชาติรังสันเพียงส่วนหนึ่ง
เหลืออีกครึ่งมนุษย์เสริมเพิ่มคุณค่า
ประดับไว้เป็นดาวพราวนภา เลิศล้ำค่ามายิ่งสิ่งอนันต์
จะดาวแท้ดาวเทียมก็ช่างเถิด ล้วนก่อเกินประเสริฐดั่งใจฝัน
บนฟากฟ้ามีเรื่องราวหลายร้อยพัน ได้แต่ฝันตามองดาวเท้าติดดิน[/i][/u]
<ที่มา[url]http://www.klonthaiclub.com/index.php?topic=5448.0[/url]>
(นี่นับวันๆผมจะโพสดึกเข้าไปทุกทีแล้วนะเนี่ย
ฮ่าๆ ขอบคุณสำหรับคอมเม้นท์ที่ผ่านมาทุกคอมเม้นท์นะครับ
คุณรู้ไหมว่าสร้างกำลังใจให้ผมเป็นอย่างมาก
ขอให้ทุกท่านที่สนใจผลงานของผมติดตามต่อและให้กำลังใจต่อไปเรื่อยๆนะครับ ขอบพระคุณ
ติชมได้นะครับ
ขอบคุณ)
จิิตอิสระ บทที่ 3: ครอบงำ ตอนที่ 14 โดย อิสระ
จิตอิสระ บทที่ 3: ครอบงำ ตอนที่ 14 โดย อิสระ
อาจเป็นเพราะการรบกวนขณะปรับสภาพร่างกาย
จึงทำให้ร่างกายของจีเซลล่ารับรู้สิ่งแปลกปลอมที่เข้ามาในช่องคลอดนั้นว่าเป็นเสมือนดั่งอวัยวะส่วนหนึ่งส่วนใดของร่างกายไปด้วย
ซึ่งมีสภาวะขับเคลื่อนตลอดเวลา และหากขาดอวัยวะชิ้นนี้ไป
ร่างกายก็จะตอบสนองอัตโนมัติด้วยอาการขาดอากาศหายใจ หัวใจเต้นผิดปรกติ
และแน่นหน้าอก จึงต้องทำให้จีเซลล่าต้องแสวงหามันตลอดเวลา...
-เที่ยงคืน-
[b]“อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ!!!”[/b]
ร่างเปลือยของหญิงสาวขยับขึ้นลงอย่างรวดเร็วบนร่างของชายฉกรรจ์ที่นอนเกร็งแอ่นเอวส่งท่อนเอ็นของตนเข้าร่องรักอยู่ด้านล่าง
เต้านมคู่แฝดกระเพื่อมตามแรงเด้งขึ้นลงไปมา
เส้นผมปลิวกระเซิงตามร่างกายเพราะเหงื่อ
เม็ดน้ำผุดพราวชโลมร่างอันขาวใสที่ตอนนี้เป็นจ้ำๆไปทั่วเพราะโดนบีบจับไปทั่ว
กลีบดอกรักที่เคยเป็นสีชมพูมาก่อนกลับช้ำคล้ำหนักเพราะใช้งานเต็มที่
ต่างเต็มไปด้วยคราบของเหลวที่แห้งเกาะติด และยู่ไปตามท่อนเอ็นที่โยกใส่
ฝ่ายชายหน้าตาเหยเกบิดเบี้ยวอย่างมีความสุขระคนเสียว
แทบหายใจไม่ทันได้แต่นอนเกร็งตัวค้างอยู่ราวกับไม่สามารถขยับไปไหนได้อีกแล้ว
อ้าปากค้างออกมาเหมือนกำลังร้องครวญครางแต่ไร้ซึ่งเสียงใดๆเล็ดลอดออกมา จนสักพัก
ร่างชายหนุ่มนั้นก็เกร็งตัวอย่างแรงอีกครั้งก่อนจะหลับตาไปอย่างหมดเรี่ยวหมดแรง
จีเซลล่ากระตุกตัวเล็กน้อยและส่งเสียงกรี๊ดออกมาสั้นๆ
จากนั้นก็หยุดการขย่มท่อนเสียว
หอบพักหนึ่งแล้วลุกขึ้นยืนปล่อยร่างห่อเหี่ยวที่เคยแข็งตระหง่านอวดความเป็นชายของร่างไร้สตินั้นให้นอนหลับใหลอย่างไม่ใยดี
แล้วหันมามองร่างนับสิบกำลังนอนหายใจอย่างรวยรินข้างกายตน
แล้วคว้าเสื้อแจ๊กเก็ตและกางเกงยีนส์ของพวกนั้นมาใส่ก่อนลุกขึ้นเดินเซออกไปจากพื้นที่ใต้สะพาน
ร่างกายเริ่มผิดปรกติอีกครั้งหลังจากขาด “การสอดใส่” เพียงชั่วนาที...
...
....
.....
--ขณะเดียวกัน อีกมุมหนึ่งของเมือง--
แก๊งง
แก้วใสกระทบกันก่อนถูกเอียงข้างออกส่งของเหลวสีอำพันเข้าไปในปากทั้งสอง
ก่อนถูกวางลงกับพื้นโต๊ะหินอ่อนขัดมันที่เต็มไปด้วยลายน้ำเกาะเป็นรูปวงกลมสะท้อนแสงไฟหลากสีสว่างวูบวาบไปมากลางแสงมืดมิด
“แม่ง...” เอกพันธ์สบถออกมาหลังจากกรอกเหล้าเข้าปาก พลางทำหน้าเสียความรู้สึก
“กูเห็นมึงบ่นตั้งแต่4ทุ่มละ มีเหี้ยไรก็บอกกูสิวะ” เสียงมาจากชายหนุ่มผู้นั่งตรงข้ามเอกพันธ์
เขาผิวขาวแต่งกายภูมิฐานเนื้อตัวดูสะอาดสะอ้าน สายตาแหลมคมราวกับสุนัขจิ้งจอก
“กูแค่ไม่เข้าใจว่าทำไม...” เอกพันธ์นึกจะระบาย แต่คิดเปลี่ยนใจ “เอ๊อะ ช่างมันเหอะไอ้เพชร”
ชายที่ชื่อเพชรยิ้มตอบอย่างมีเลศนัย
ไม่คิดจะถามเอกพันธ์ต่อแม้ในใจนั้นอยากรู้มากมาย
เพราะเขาเดาได้อยู่แล้วว่าคงไม่พ้นเรื่องอลิสสิตา ประธานคนใหม่ของบริษัทอยู่แล้ว
ซึ่งเขาคอยดอดสืบเสาะหาข้อมูลจากเอกพันธ์เป็นธรรมดาอย่างต่อเนื่อง
“เอาน่า กูไม่ถามมึงหรอกว่าอะไรเป็นยังไง
แต่วันนี้กูมีของดีมาปลอบใจ โอเคมั้ย?ไอ้เอก” เพชรพูดจบก็กวักนิ้วเรียกสองสาวที่นั่งอยู่อีกโต๊ะมาใกล้ๆ
สองสาวย้อมผมสีทองสไตล์เกาหลีหน้าตาจิ้มลิ้มสองคนเดินมาด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
ถือแก้วเหล้าในมือด้วย
“มีอะไรคะพี่เพชรขา” หนึ่งในสองคนถามเสียงหวานชวนคุย
“พอดีวันนี้พี่มีเพื่อนคนนึงอยากแนะนำให้เรารู้จัก
เขาชื่อพี่เอก ทำงานที่ริคแซมเชียวนา” พูดจบสองสาวก็หันควับไปหาเอกพันธ์ทันที
“สวัสดีค่าพี่เอก หนูชื่อมิ้นนะคะ
ยินดีที่ได้รู้จักนะคะพี่เอก” สาวสวยคนเดิมพูดแล้วคว้ามือไปจับทักทายทันที
ทำเอาเอกตกใจเล็กน้อย
“หนูชื่อจี๊ด มีอะไรให้หนูช่วยเนี่ย...”อีกคนทักทายด้วยการเดินไปนั่งบนตักพร้อมเอาปลายนิ้วชี้ลากไปตามคางของเอก
ดวงตาหยาดเยิ้มทำเอาเอกสะดุ้งเลยทีเดียว ก่อนจะยื่นหน้าไปแทบชนใบหน้าชายหนุ่ม “บอกหนูได้ทุกอย่างเลยนะคะ หนูยินดีรับใช้”
เอกพันธ์พยายามละสายตาจากสองสาวหันไปมองหน้าไอ้เพชร เพื่อนตัวดี
ก็เห็นมันนั่งยิ้มให้จนดวงตาเล็กแทบมองไม่เห็น พลางทำมือบอกให้เชิญไปที่มุมของผับ
เอกพันธ์ถมึงลูกตาใส่ทีนึง ก่อนโอบเอวสาวๆด้วยมือทั้งสองข้างแล้วพาออกไปด้านนอก
เจ้าเพชรยกแก้วจรดปากแล้วดื่มจนหมด ก่อนโยนแบงก์สีเทาลงบนโต๊ะใบหนึ่ง
แล้วเดินมือล้วงกระเป๋ากางเกงเดินตามไป...
[img]http://i.kapook.com/tripplep/18-1-55/korea16.jpg[/img]
[img]http://i.kapook.com/tripplep/18-1-55/korea7.jpg[/img]
จบตอนที่ 14 อ่านต่อ 15 ครับผม
(ขอโทษที่ลงให้ล่าช้านะครับ
ช่วงนี้ยุ่งนิดๆ ขอบคุณที่ติดตามนะครับทุกๆท่าน ทั้งลงนามและผ่านมา :) ติชมได้นะครับ
ขอบคุณ)
จิตอิสระ บทที่ 3: ครอบงำ ตอนที่ 13 โดย อิสระ
จิตอิสระ บทที่ 3: ครอบงำ ตอนที่ 13 โดย อิสระ
[b] จีเซลล่า[/b] เสมือนอยู่ในห้วงนิทรา
ไม่ต่างอะไรกับการจำศีลเพื่อปรับสภาพร่างที่ได้รับใหม่ให้เข้ากับโลกปัจจุบัน
เมื่ออยู่ในการปรับตัว
จู่ๆเธอก็ถูกสิ่งแปลกปลอมสอดแทรกเข้าไปในอวัยวะสืบพันธุ์ของเธอ
และด้วยปฏิกิริยาโต้ตอบ
ทำให้สิ่งนั้นหลั่งของเหลวขุ่นข้นออกมาและร่างกายเธอก็ดูดซึมเสียจนหมดสิ้น
นำเอาเข้าไปในกระบวนการของร่างกาย และพอดีกับการปรับตัวเสร็จ
จีเซลล่าจึงตื่นขึ้นมาด้วยร่างกายหญิงสาวหุ่นอวบอัดสัดส่วนเต่งตึงกระชับไปทั้งร่างกาย
ผิวสีขาวนวลมีเลือดฝาดราวกับทารกแรกเกิด
ผมยาวสีน้ำตาลเข้มออกแดงตั้งแต่ศีรษะจรดกลางหลัง และดวงตาสีฟ้าใสสุกสกาวจ้องมองมายังร่างมนุษย์ที่กำลังทับตนเองด้วยความแปลกใจ
“จ...เจ้า” จีเซลล่าพยายามใช้กระบวนการคิดวิเคราะห์ภาษาที่ใช้สื่อสารพลางจ้องมองร่างหอบแฮ่กเต็มไปด้วยกลิ่นเหม็นเน่านั้น
พอไอ้ขี้ยาได้ยินเสียงหญิงสาวที่ตนเพิ่งเสร็จกามกิจไปก็เงยหน้าขึ้นมามอง
ก็พบกับดวงตาของเธอจ้องมองอยู่ก่อนหน้านั้นแล้ว
“อย่าโทษกูเชียวนะเว้ย
มึงเล่นโผล่มาให้กูฟรีๆแบบนี้โทษกูไม่ได้นะ” ขี้ยาร้องปัดความรับผิดชอบก่อนถอนเจ้าโลกของตนออกจากช่องคลอด
กลีบเนื้อของจีเซลล่ารูดออกตามท่อนเนื้อราวกับไม่อยากให้มันจากไป
เมื่อหลุดออกมันก็ดังบล็อก แล้วกลีบเนื้อที่เผยออกเป็นช่องโหว่ก็หุบตัวลงอย่างช้าๆราวกับปิดตัวลงไม่ให้ใครเข้าไปได้อีก
จีเซลล่าเกิดอาการผวาอย่างเห็นได้ชัด
ร่างของเธอสั่นสะท้านทันทีที่ดุ้นนั้นออกจากร่างไป เธอหายใจติดขัดรู้สึกแน่นหน้าอก
“ของมึงนี่สุดยอดจริงๆ
ทั้งตอดทั้งรัดไม่หยุด เอาอีข้างทางมาสู้กับมึงไม่ได้จริงๆ” ชายขี้ยาพล่ามโดยไม่ได้สนใจอาการของหญิงสาวขณะเอานิ้วเขี่ยๆกลีบและเม็ดคลิตอริสเล่นอย่างสนุกมือ
ซึ่งทำให้จีเซลล่าบิดตัวเกร็งไปมา
“ส... ใส่” จีเซลล่าพูดติดขัด
มองเจ้าท่อนเอ็นทีกำลังเหี่ยวตัวลงทีละน้อยๆด้วยลมหายใจขาดห้วง
“อะไรของมึง?”
“ใส่
เข้าอีก” แล้วเธอก็เอื้อมมือนุ่มๆไปจับท่อนเอ็นแล้วจ่อเข้าไปที่ช่องคลอดของตนเอง
เจ้าขี้ยาเมื่อเห็นการกระทำดังกล่าวก็บังเกิดอารมณ์ขึ้นอีก
เพราะตนไม่เคยได้รับการยินยอมพร้อมใจเท่านี้
จึงออกแรงนิดเดียวส่งท่อนเนื้อเบียดเข้าไปในช่องคลอดอีกทันที
“มึงเงี่ยนควยกูใช่มั้ย อีนี่
กูจะจัดให้ต่อรอบ2เอง” พูดสบถขณะเร่งเอวกระเด้าอย่างรวดเร็วแล้วเงยหน้าครางด้วยความเสียว
ฝ่ายจีเซลล่าเมื่อรับท่อนเอ็นเข้าไปก็ถอนหายใจเสียงดังราวกับปลาได้ลงเข้าไปในน้ำอีกครั้งหลังจากขาดอากาศเป็นเวลานานพร้อมครางอย่างมีอารมณ์
ขมิบรัดอย่างรุนแรง
“อ๊ะ อาวส์ อา... อาวว” จีเซลล่าครางด้วยความรู้สึกทางเพศที่เข้ามาครอบงำเธอ
ความรู้สึกแปลกใหม่ที่มาจากการเป็นมนุษย์ของเธอพร้อมกับหลั่งน้ำออกมาหล่อลื่นให้กับท่อนเอ็นเพื่อให้มันขยับได้ดีขึ้น
ฝ่ายขี้ยาเมื่อเจอแบบนี้ถึงจะเพิ่งเสร็จสมไปหยกๆก็ต้องหลั่งอีกรอบเพราะทนฤทธิ์การตอดรัดไม่ไหว
เกร็งตัวแล้วฉีดน้ำเข้าไปและฟุบลงบนอกจีเซลล่าอีกรอบ
“แฮ่ก
แฮ่ก...” ขี้ยาหอบเสียงดัง
“เอา...อ...อีก” จีเซลล่าพูดขณะยังคงหอบไม่หยุด แต่เธอยังต้องการมันอีก
เพราะหากขาดมันก็จะทำให้เธอหายใจไม่ออก หัวใจเต้นรัวไม่หยุด
เธอดันร่างไร้เรี่ยวแรงของไอ้ขี้ยาไปด้านหลัง แล้วขยับตัวขึ้นมาด้านบนแทน
ก่อนตั้งหน้าตั้งตาขย่มท่อนเนื้อที่ยังคาอยู่ในร่องอย่างรุนแรง
ทั้งๆทีมันกำลังจะอ่อนตัว
เจ้าขี้ยาเมื่อเจอเข้าไปถึงกับสะท้านอย่างหนักด้วยเพราะความเสียวที่ตนเองเพิ่งจะเสร็จหมาดๆไป
“อย่า พอแล้ว ก กู อั่กกก
กู เสียว” ขี้ยาร้องเสียงดังใบหน้าซีดเซียวราวกับถูกดูดพลังชีวิตไปและเสียงก็ขาดห้วงไปพอดีกับเจ้าท่อนเอ็นหลุดออกจากร่องหลืบล้มตัวนอนอย่างปวกเปียก
จีเซลล่าหันมามองอย่างเสียอารมณ์ก่อนลุกขึ้นอย่างรวดเร็วเพื่อมองหาอันใหม่
“ไอ้ยศมันหมดน้ำยาแล้ว
พวกพี่จัดการให้ต่อเองนะน้องสาว” เสียงดังขึ้นจากด้านหลัง
เมื่อจีเซลล่าหันไปมองก็พบกับกลุ่มชายนับสินกำลังยืนเปลือยอยู่
อวดท่อนเอ็นมากมายกำลังแกว่งไปมาพร้อมกับเข้ามาใกล้[b] จีเซลล่ารีบเดินเข้าไปหาอย่างรวดเร็วไม่มีความเกรงกลัวสะทกสะท้านใดๆทั้งสิ้น
ราวกับนั่นคือสิ่งที่เธอต้องการที่สุดในชีวิต...[/b]
จบตอนที่ 13 ครับ อ่านต่อตอนที่ 14 ครับผม อิอิ
(เจ๊แกแรงน่าดูเลย ฮ่าๆ
ขอบคุณในคอมเม้นท์ที่ผ่านมาทั้งหมดนะครับ สำหรับวันนี้ขอพอแค่นี้ก่อน
ต่อพรุ่งนี้จะมาโพสให้ตอนเย็นๆนะ ติชมได้นะครับ
ขอบคุณ)
จิตอิสระ บทที่ 3: ครอบงำ ตอนที่ 12 โดย อิสระ
จิตอิสระ บทที่ 3: ครอบงำ ตอนที่ 12 โดย อิสระ
อวัยวะที่คัดมาพิเศษเพื่อการกระทำเฉพาะกิจบางอย่างยืดออกมาจากร่างสีดำของเจนนู
มันยาวเป็นแท่งขนาดเท่าหัวแม่มือ ปลายกลมมนสีออกชมพูใส และมีหยักที่ปลายเป็นวงรอบท่อน
มันยืดออกจากร่างประมาณเกือบเมตร
แล้วเอี้ยวตัวกลับมาด้านล่างเล็งไปยังกลีบสวาทอันมีสารคัดหลั่งออกมาตามอารมณ์ของหญิงสาวปริ่มขอบ
อลิสสิตาหันมามองก็ตกใจแทบสิ้นสติ เธอรู้ได้ทันทีว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับตนเอง
แต่เพราะเต็มไปด้วยอารมณ์ใคร่และความอยากรู้อยากเห็น จึงปล่อยให้เหตุการณ์ดำเนินต่อไปขณะที่ตนกำลังเพลินกับเส้นเล็กๆรอบกายที่เสียดสีไปทั่วร่างกายเธอ
มันทำให้เกิดอาการขนลุกและเสียวซ่านอย่างที่ไม่เคยประสพพบเจอมาก่อน
อลิสสิตาได้แต่ครางเบาๆอยู่ในลำคอเพราะกลัวคนที่อยู่ด้านนอกห้องจะได้ยิน
ซึ่งเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว เพราะห้องทำงานของเธอบุด้วยแผ่นกันเสียงอย่างดีเพราะป้องกันการแอบฟังจากด้านนอก
[b]เจ้าท่อนสีชมพู[/b]เลื้อยไปตามขาอ่อนของหญิงสาวก่อนจ่อปากทางเข้าร่องสวาท
แล้วปลายหัวของมันก็สัมผัสกับกลีบร่องรักเบาๆประหนึ่งดุจเอาริมฝีปากเชยชมรสชาติหอมหวาน
ร่างอลิสสิตาสั่นสะท้านเกร็งไปทั่วด้วยความเสียว
น้ำรักของเธอหลั่งออกมาเพิ่มจนชโลมปลายกลมมนจนฉ่ำไปด้วยน้ำ ทันใดนั้น
ท่อนเนื้อก็เริ่มแซะเข้าไปในร่องกลางกลีบดอกสวรรค์ เสียดสีกับติ่งเนื้อสีชมพูเบาๆ
อลิสสิตาครางอย่างไม่ทันตั้งตัวและสะดุ้งเบา
ก่อนที่เจ้าท่อนนั้นได้แหวกเข้าไปในร่างของเธอ
[b]แว๊บบบ...[/b]
ก่อนที่เหตุการณ์ใดๆจะได้เริ่ม
แสงสว่างจ้าสีขาวก็ส่องวูบมาจากด้านนอกอาคาร
อลิสสิตาซึ่งกำลังเคลิ้มปล่อยจิตใจไปตามกระแสอารมณ์ก็ตกใจสะดุ้งราวกับถูกปลุกจากความฝัน
เจนนูซึ่งกำลังจะได้เริ่มปฏิบัติกิจตามความปรารถนาลึกๆของตนก็สะดุ้งตกใจเช่นกันและหดเอาอวัยวะของตนทั้งหมดที่แผ่ออกมากลับเข้าร่างอย่างรวดเร็ว
จากนั้นก็ตามมาด้วยเสียงระเบิดดังกึกก้องมาจากที่ไกลๆหลังจากเกิดแสงสว่างไม่นาน
“กะ... เกิดอะไรขึ้น” อลิสร้องถามขณะลุกขึ้นนั่งและรีบจัดแจงเครื่องแต่งกายตนให้เรียบร้อย
ใบหน้าเธอแดงก่ำราวกับทาด้วยชาด เม็ดเหงื่อผุดพราวทั่วใบหน้า
หายใจหอบไม่ต่างอะไรกับนักกีฬาที่เพิ่งออกกำลังกายเสร็จมาหมาดๆ
‘ข้าไม่ทราบ’ เจนนูตอบด้วยน้ำเสียงที่เหนื่อยระคนตื่นเต้นเช่นกันขณะที่ร่างของเขาหดกลับมาเป็นชุดรัดรูปของอลิสสิตาเรียบร้อยแล้ว
อลิสสิตาเหมือนจะฉุกคิดได้ก่อนจึงรีบลุกจากโซฟา
คว้ากระเป๋าที่เธอหมายไว้ตั้งแต่ทีแรก แล้วรีบเดินออกห้องทำงานอย่างรวดเร็ว
ขณะคิดไปด้วย ทำไมเธอถึงหลวมตัวให้กับเจนนูอย่างง่ายดายโดยไม่มีเหตุผลใดๆทั้งสิ้น
ความรู้สึกที่แวบเข้ามาเมื่อครู่นั้นราวกับว่า เธอและเจนนู
เคยเป็นของกันและกันมาก่อน เมื่อไม่นานมานี้เอง
ราวกับสัมผัสทุกอย่างที่ได้รับเป็นของที่คุ้นกันอยู่แล้ว
ราวกับเป็นสิ่งที่เธอยินยอมที่จะเสียความเป็นพรหมจรรย์อย่างง่ายดายเพื่อให้เธอรับมันมา
ทำไมนะ? ทำไม???
-มุมหนึ่งของกรุง-
ซากรถยนต์สีดำกำลังลุกไหม้อยู่บนถนนทางด่วน
หลังจากที่จู่ๆก็มีบางสิ่งพุ่งเข้าชนจากด้านบน
ส่งผลให้พื้นถนนแตกระเบิดกลายเป็นหลุมกว้าง และรถคันหนึ่งโดนระเบิดเข้าไปจังๆ
แต่ไม่พบที่มาหรือวัตถุใดๆทั้งสิ้นที่เป็นตัวการ...
ถัดลงมาที่ใต้สะพานทางด่วน
อันเป็นเพียงพื้นปูนหยาบๆ
มีเพียงแสงไฟจากถนนด้านบนเท่านั้นที่ส่องแสงเล็ดรอดลงมาเพียงหน่อยเดียว
จึงกลายเป็นแหล่งมั่วสุมชั้นดีของวัยรุ่นติดยาซึ่งมารวมตัวกันเพื่อสังสรรค์ปารตี้ของมึนเมา
แต่พวกเขาก็ต้องตกใจเมื่อจู่ๆมีร่างเปลือยตกลงมาจากมุมไหนซักแห่งบนทางด่วน
ลงมาตรงฟูกที่นอนเก่าๆที่ถูกคนเอามาทิ้งอย่างไม่เหลียวแล
“เฮ้ยมึง ดูดิ๊ อะไร กูว่ากูเห็นผู้หญิงตกลงมาว่ะ”
เสียงวัยรุ่นชายคนหนึ่งดังขึ้น
น้ำเสียงไม่สม่ำเสมอด้วยฤทธิ์ของสมุนไพรกล่อมประสาท
“กูว่าแม่งไม่ใส่เสื้อผ้าด้วย กูเห็นแว๊บๆ”
ชายอีกคนลุกขึ้นจากวงขี้ยา
ใส่แต่กางเกงยีนส์สามส่วนเดินส่ายไปมาอวดความเป็นขี้ก้างไปยังฟูกที่นอนที่ยุบลงเพราะถูกร่างลึกลับตกใส่
“น้องจ๋า เป็นไรป่าว พี่ช่วยเอามั้ย”
ขี้ยาถามด้วยเสียงยืดยานแล้วเดินไปเกาะตอม่อสะพาน
สายตาหรี่ลงพยายามมองร่างนั้นผ่านความมืด
[b]จีเซลล่า[/b] เมื่อผ่านมายังชั้นบรรยากาศของโลก
ก็ต้องตกใจแทบช๊อคเพราะอากาศที่เธอหายใจนั้นผิดไปกับอากาศบนโลกมาก
ด้วยเธอไม่ได้ศึกษารายละเอียดของโลกมาก่อนล่วงหน้า
ร่างผสมเครื่องยนต์ของเธอซึ่งเหมาะกับภูมิอากาศของโลกจึงเสียสมดุลและตกลงพื้นอย่างแรง
หลังจากนั้นเธอจำต้องสละร่างประกอบทิ้งเพื่อนำไปสู่การแตกดับและเกิดใหม่
จึงสลายร่างหยาบของพาหนะทิ้งและสร้างร่างใหม่ขึ้นทันทีให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมปัจจุบัน
ร่างใหม่ของเธอซึ่งมีลักษณะสัดส่วนไม่ต่างกับกายมนุษย์หญิงสาวจึงสร้างขึ้นและตกลงบนผืนผ้าสังเคราะห์เก่าๆ
และเนื่องจากยังต้องปรับตัวเข้ากับสภาพภูมิอากาศอีกมาก
เธอจึงยังไม่พร้อมที่จะตื่นได้สติครบถ้วน
“น้องจ๋า สงสัยคงหนีมาแน่เลย
เด๋วพี่นัทจะช่วยปลอบนะ” ขี้ยาพูดเสียงหวานหลังจากเห็นสภาพเปลือยกายของจีเซลล่า
ซึ่งเป็นร่างของหญิงสาวผิวขาวสวยสัดส่วนกระชับนอนตะแคงหันหลังให้เขาอยู่
ผมสีแดงปนน้ำตาลยาวเหยียดลงมาที่ฟูกที่นอน
ปล่อยให้แผ่นหลังอวดความขาวนวลเนียนน่าจับ
เอวคอดกิ่วและบั้นท้ายงอนงามอยู่ในความมืด พูกลีบเนื้อปลิ้นออกมาจนเห็นได้จากด้านหลัง
ไอ้นัท ขี้ยามองร่างนั้นด้วยความกระหยิ่มในใจ
ราวกับนางฟ้าตกจากสวรรค์ให้มันได้เชยชม
มันไม่แน่ใจว่ามันคิดไปเองรึเปล่าว่าร่างหญิงสาวนั้นกำลังสว่างวูบวาบไปมาเป็นสีฟ้าน้อยๆ
แต่ก็ไม่สำคัญหรอก เพราะเธอจะตกเป็นของเขาอยู่แล้ว มันคิดขณะปลดกางเกงยีนส์ของตนออก
โชว์เจ้าโลกแท่งเรียวยาวของตนแกว่งไปมาแล้วก็คลานเข้าไปหา
“ให้พี่จัดซักที แล้วน้องจะติดใจ” มันเข้าไปประชิดร่างหญิงสาวที่นอนตะแคงจากด้านหลัง
ถุยน้ำลายเหนียวๆลงฝ่ามือแล้วป้ายหัวเห็ดของตนเอง
ก่อนยกขาขาวๆยาวเรียวผิวตึงกระชับขึ้น แล้วบรรจงแทรกเจ้าโลกของตนเข้าไป
“อึ๊...
อ่า” ไอ้ขี้ยาร้องราวกับร่างมันถูกตีด้วยความกระสันขณะที่ของๆมันเข้าไปในกลีบนั้นราวกับถูกดูดเข้าไป
ในขณะที่ร่างของจีเซลล่าก็สั่นสะท้านไปทั่วเมื่อถูกสิ่งแปลกปลอมสอดแทรกเข้ามาในร่างกาย
ช่องคลอดที่สร้างไม่เสร็จดีได้หลั่งสารหล่อลื่นออกมาเพื่อลดแรงเสียดทานภายใน
พร้อมกับขมิบโพรงช่องคลอดตลอดเวลาเพื่อปรับตัว
มันทำให้ไอ้นัทเสียวจนแทบขาดใจแม้ตนจะอยู่เฉยๆยังไม่ทันได้ทำอะไรเพิ่ม
“อั๊ก... “ เพียงครู่เดียวมันก็ต้องเสียน้ำให้กับสาวแปลกหน้าเพราะแรงตอดรัดของหญิงสาว
มันฉีดน้ำกามของมันเข้ากระทบช่องคลอดอย่างรุนแรงขณะที่ตัวมันเกร็งค้างอยู่อย่างนั้น
ครู่เดียวมันก็ผละตัวลงไปนอนหอบอยู่ข้างๆ
ท่อนกายของมันหลุดออกจากกลีบพูสวยๆดังบล๊อก แต่ไม่มีน้ำไหลออกมาสักหยด
“ไอ้เหี้ยนัท
มึงนี่ได้อะไรไม่เคยบอกกูเลยนะ” ขี้ยาคนแรกเดินมาพอดีหลังจากเห็นไอ้นัทปีนไปทำร่างเปลือย
มันผลักไล่ไอ้นัทให้ลงจากฟูกก่อนขึ้นไปแทนที่แล้วพลิกตัวร่างนั้นให้หงายขึ้น
“โอ้
สวยจริงๆ อีนี่”มันอุทานพลางปลดเข็มขัดออก
หลังจากเห็นใบหน้างามหมดจดเรียวสวยของหญิงสาว
หน้าอกขนาดใหญ่กลมกลึงคาดได้ไม่ต่ำกว่าคัพD หัวนมสีชมพูดสด เนื้อตัวดูเรืองแสงอย่างไรชอบกล
และเธอกำลังหายใจอย่างหอบๆ ดวงตาปิดสนิท
ไอ้ขี้ยาคุกเข่าลงเบื้องหน้าแล้วก้มตัวลงไปดูดหัวนมข้างขวาอย่างรุนแรงราวกับอดอยากมานานขณะใช้มือข้างหนึ่งเคล้นนมอย่างเอาเป็นเอาตาย
แล้วมันจับท่อนเนื้อของมันจ่อเข้ากลางเครื่องเพศแล้วแทงเข้าทีเดียวหมดลำ
“อ๊า..” ร่างหญิงสาวแอ่นสะโพกขึ้นขณะครางเบาๆทั้งๆที่ยังหลับตาอยู่ภายในตอดรัดสิ่งแปลกปลอมที่เข้ามาใหม่อย่างต่อเนื่อง
เจ้าขี้ยารู้สึกเสียวได้ทันทีแต่ยังคงทนได้จึงรีบเด้าเอวตนเองอย่างไวส่งท่อนเนื้อของมันขยับเข้าออกร่องสวาทนั้นไม่ยั้ง
กลีบแคมนั้นยู่ไปตามแรงกดของท่อนเนื้อและรูดขึ้นเมื่อท่อนเนื้อถอยออกดูเป็นภาพที่ระทึกใจยิ่งนัก
เพียงพักเดียวเท่านั้น
ไอ้ขี้ยาคนนี้ก็ทนไม่ไหวระเบิดน้ำขาวขุ่นเข้าไปในช่องคลอดอย่างรุนแรง
ก่อนทิ้งตัวลงไปฟุบคาอกอวบอึ๋มคู่งาม
[i]ทันใดนั้นจีเซลล่าก็ลืมตาขึ้น...[/i]
[img]http://44.imagebam.com/download/kiBVpn_XsjsO8j9ChYcwYw/17961/179603775/6.jpg[/img]
จบตอนที่ 12 อ่านต่อตอนที่ 13 นะครับ ขอบคุณ
[u][i] มองท้องฟ้าคืนนี้มีดวงดาว สุดสกาวราวนภาดูสดใส
ธรรมชาติรังสันหรืออย่างไร รวมไว้ในโลกาเวลาเดียว
ครั้นกลางวันดาวนั้นก็มืดบอด ไม่เล็ดลอดสาดแสงให้แลเหลียว
พอกลางคืนดาวระยับวับแววเชียว เมื่อแลเหลียววับวับระยับ
ธรรมชาติรังสันเพียงส่วนหนึ่ง
เหลืออีกครึ่งมนุษย์เสริมเพิ่มคุณค่า
ประดับไว้เป็นดาวพราวนภา เลิศล้ำค่ามายิ่งสิ่งอนันต์
จะดาวแท้ดาวเทียมก็ช่างเถิด ล้วนก่อเกินประเสริฐดั่งใจฝัน
บนฟากฟ้ามีเรื่องราวหลายร้อยพัน ได้แต่ฝันตามองดาวเท้าติดดิน[/i][/u]
<ที่มา[url]http://www.klonthaiclub.com/index.php?topic=5448.0[/url]>
(นี่นับวันๆผมจะโพสดึกเข้าไปทุกทีแล้วนะเนี่ย
ฮ่าๆ ขอบคุณสำหรับคอมเม้นท์ที่ผ่านมาทุกคอมเม้นท์นะครับ
คุณรู้ไหมว่าสร้างกำลังใจให้ผมเป็นอย่างมาก
ขอให้ทุกท่านที่สนใจผลงานของผมติดตามต่อและให้กำลังใจต่อไปเรื่อยๆนะครับ ขอบพระคุณ
ติชมได้นะครับ
ขอบคุณ)
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)