10 เมษายน, 2555

จิตอิสระ บทที่ 3: ครอบงำ ตอนที่ 20 โดย อิสระ

จิตอิสระ บทที่ 3: ครอบงำ ตอนที่ 20 โดย อิสระ

(มา จัดหนักกันเลยครับสำหรับตอนนี้หุหุ)

“อึ๊กกกก...”

   จีเซลล่าร้องเสียงดังขณะที่ร่างกายเธอกระตุกอย่างแรง ราวกับถูกกระแทกจากที่นั่งในรถสีหน้าบ่งบอกความเจ็บปวด พลันบิดร่างกายไปมามือปัดป่ายไปทั่วทั้งตัว เอกพันธ์ถึงกับสะดุ้งตามเสียงนั้นเกือบจะหักพวงมาลัยเหยียบเบรคตามสัญชาติญาณ

“นี่เธอ เป็นไร!!!” เอกพันธ์ร้องถามอย่างตกใจพลันเหลือบหันมามองก็เห็นสีหน้าทรมานของเธอ มือทั้งสองกำเบาะที่นั่งรถไว้จนเบาะหนังยืดตัวออกตามแรงบิด พลางมองหน้าเอกพันธ์ด้วยอารมณ์เจ็บปวด

“ข้าหายใจไม่ได้... อาการนี้มาอีกครั้ง” จีเซลล่าพูดราวกับถูกบางอย่างอุดไว้ในปาด ขณะที่เธอกำลังกัดฟันทนทรมานนั้นอยู่

“รีบ...พาข้า ไปที่พักของเจ้า...” จีเซลล่าพูดอีกครั้งด้วยน้ำเสียงที่ดูแข็งกร้าวมากกว่าเดิม จนเอกพันธ์รู้สึกได้ แต่เขายังมึนงงอยู่อย่างนั้น

“เร็ววว!!!” 
       สิ้นเสียงตวาด เอกพันธ์สะดุ้งโหยง เหยียบคันเร่งอย่างสุดเร่ง เครื่องยนต์รีบตอบสนองการกระตุ้นพุ่งตัวไปด้านหน้าอย่างรวดเร็วในขณะที่เลี้ยวหลบและแซงรถด้านหน้าไปมา จีเซลล่าถูกแรงเหวี่ยงรถเซไปมาจนต้องงอตัวลงเพราะไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ไม่นานนัก รถเก่งสีดำก็มาถึงหน้าประตูอัลลอยสลักลายวิจิตรงดงามตระการตาภายในพริบตาเดียว เอกพันธ์รีบกดรีโมทเปิดประตูอย่างรีบร้อน เพราะเมื่อเขาหันกลับไปก็เจอร่างของหญิงสาวนั้นนิ่งไปเสียแล้ว ดูเหมือนกับว่าไม่มีชีวิตอย่างไรอย่างนั้น พอประตูเลื่อนออกมาเปิดพอให้รถลอดผ่านได้ เอกพันธ์ก็รีบเหยียบพุ่งเข้าไปอย่างรวดเร็วจนผิวรถแทบจะเฉียดไปกับเนื้ออัลลอย แต่ไม่ได้อยู่ในความสนใจของเขา เพราะต้องขับรถเร่งสุดฝีเท้าบนถนนคอนกรีตยาวเกือบ500เมตรเพื่อตรงไปยังที่พักหลังคฤหาสน์

“นั่นเสียงรถใคร?” 
อลิสสิตาถามแม่บ้านทันทีที่ได้ยินเสียงเครื่องยนต์รถดังกระหึ่มผ่านหน้าคฤหาสน์เธอไป สาวใช้วัยละอ่อนรีบแจ้นไปที่หน้าต่าง แล้วกลับมาบอกเธอด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น
“รถพี่เอกค่ะ คุณหนู”
“พี่เอก... “ อลิสสิตาพูดขึ้นอย่างเลื่อนลอย ก้มมองนาฬิกาข้อมือแล้วก็ทานอาหารต่อไป

นี่ นายว่าพี่เอกเขาเป็นอะไร ทำไมถึงเข้างานสายแล้วเร่งรีบขนาดนี้ อลิสไม่เคยเห็นพี่เอกเป็นอย่างนี้มาก่อน’  อลิสสิตากำหนดจิตถามเจนนูโดยไม่ต้องพูดออกเสียง ซึ่งนับเป็นการสื่อสารแบบใหม่ที่เธอเพิ่งได้เรียนรู้หลังจากที่เจนนูสอนเธอเมื่อเช้านี้เอง
ข้ามิอาจรู้ อาจจะมีเหตุใดเกิดขึ้นโดยไม่คาดคิดก็เป็นได้ จะว่าไปข้ายังนึกถึงเหตุเมื่อวานที่เกิดแสงประหลาดนั่นอยู่เลย’ เจนนูคาดเดา ขณะที่ยังนึกถึงแสงประหลาดนั่น แสงนั้นมันช่างคุ้นตาเหลือเกิน ราวกับเป็นแสงของการจุติใหม่ของพวกอมรา แต่ไม่น่าเป็นไปได้เพราะดาวโลกขณะนี้ต้องมีเพียงเขาตนเดียวเท่านั้น และไม่มีทางที่อมราตนใดจะได้รู้ว่าเขาอยู่ที่นี้แน่นอน แต่ยังไม่อาจคลายความสงสัยออกจากจิตใจไปได้ ในขณะที่อลิสสิตานิ่งเงียบตักอาหารใส่ปากก็นึกถึงแสงประหลาดนั้น รวมทั้งย้อนเหตุการณ์ไปอีกหน่อย ภาพของเส้นสายมากมายที่เล้าโลมปลุกปั่นให้สติขาดดิ้นก็ปรากฏขึ้น ทำเอาเธอเลือดในกายพลุ่งพล่าน ใบหน้าออกสีแดงทันที ขณะที่ร่องสวาทของเธอก็เกิดอาการบีบรัดรัวด้วยความรู้สึกเสียวซ่านนิดๆ เจนนูรับรู้อาการนั้นก็ยิ้มกระหยิ่มดีใจอยู่ในใจเงียบๆ 
‘นายอ่ะ ทำอะไรก็ไม่รู้ ไม่ทันตั้งตัว’ อลิสสิตาตัดพ้อในใจ แต่ไม่มีเสียงตอบรับ เธอรับรู้ได้อย่างเดียวว่าเจนนูที่อยู่ในจิตใจเธอนั้นกำลังอารมณ์ดีจนแทบจะฮัมเพลงออกมาเลยล่ะ

ขณะเดียวกันที่บ้านพักของเอกพันธ์หลังคฤหาสน์

      บ้านของเอกพันธ์นั้นได้ปลูกขึ้นจากความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่และมีน้ำใจของริชมอนต์ ผู้เป็นดั่งพ่อในใจของเอกพันธ์ ทั้งหลังสร้างจากไม้ซุงผ่าครึ่งและนำมาต่อกันเป็นชั้นๆทำให้ตัวบ้านนั้นนูนกลมตามแนวไม้เป็นชั้นๆดูมีชีวิตชีวาร่าเริง ยิ่งรวมกับสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยต้นไม้ยืนต้นน้อยใหญ่เพราะติดกับสวนหลังคฤหาสน์ทำให้เกิดบรรยากาศชีวิตที่มีความเป็นส่วนตัวดูรโหฐานแตกต่างจากในคฤหาสน์มากนัก ถึงแม้ว่าบ้านจะสร่างจากไม้และส่วนประกอบส่วนใหญ่จะดูไม่ทันสมัย แต่บ้านของเอกพันธ์กลับมีอุปกรณ์-เครื่องใช้ไฟฟ้าครบครันไม่ต่างกับชีวิตคนเมือง ดูแล้วอย่างกับที่เป็นบ้านในฝันของชายโสดจริงๆ

      รถคันงามเบรกเสียงดังหลังจากพุ่งตัวผ่านทิวต้นไม้จนเกิดเสียงสลับกันไปมา เศษดินถูกล้อรถตะกุยขึ้นมาปลิวว่อนตามแรงลมสะบัดและแตกกระจายจนกลายเป็นฝุ่นคลุ้งไปทั่ว จากนั้นเอกพันธ์ก็รีบเปิดประตูออกมาแล้วไปดูอาการของจีเซลล่าอย่างรวดเร็ว

       จีเซลล่า สาวสวยหุ่นสะคราญ ผู้มีดวงตาสีฟ้าใสดั่งฟากฟ้าที่สดชื่น ราวกับสามารถโอบกอดผู้ที่พบเห็นด้วยความอบอุ่นนุ่มได้ในวินาทีเดียวกันที่ประสานสายตา ในขณะที่เรือนผมของเธอนั้นเป็นสีน้ำตาลเข้มปนแดงช้างดูเร่าร้อนราวกับจะแผดเผาหัวใจของผู้พบเห็นให้หลอมละลายด้วยไฟราคะทันทีทีมันสยายออก ทั้งสองสิ่งนี้มันช่างเหมาะเจาะกับร่างเปล่งปลั่งอวบอิ่มอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ แต่ในขณะนี้เธอกลับนอนนิ่งเหยียดกายตะแคงตัวตามแนวที่นั่งหลังคนขับไม่ไหวติงใดๆทั้งสิ้น เอกพันธ์เริ่มออกอาการลนลานทั้งๆที่เขาไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรด้วย แต่คงเป็นเพราะสามัญสำนึกของเขาที่ทนเห็นใครเป็นอะไรต่อหน้าเขาไม่ได้ เอกพันธ์รีบเข้าไปในตัวรถ แล้วคว้าร่างนั้นขึ้นมาประคองไว้ เห็นใบหน้าซีดขาวของจีเซลล่าที่หลับตานิ่งไม่ไหวติงใดๆทั้งสิ้น ไม่มีการเคลื่อนไหวอะไรสักอย่าง ไม่มีแม้แต่ลมหายใจผ่านเข้าออกจมูกโด่งยาวงามนั่น

“ชิบหายละกู” เอกพันธ์สบถกับตนเองแล้วออกแรงอุ้มร่างหญิงสาวออกจากรถ ก่อนออกตัววิ่งไปยังบ้านของเขา ขึ้นบนไดตรงระเบียงบ้าน แล้วยกขาข้างหนึ่งถีบประตูบ้านออก ซึ่งไม่จำเป็นต้องฝืนมันเลยเพราะประตูนั้นเปิดออกได้ง่านดายอยู่แล้ว เอกพันธืไม่คิดจะล๊อคบ้าน ยังไงยังไงบ้านเขาก็ปลอดภัยอยู่แล้วเพราะอยู่ในวงล้อมของคฤหาสน์ริชมอนต์
แต่ยังไม่ทันที่เอกพันธ์จะได้ทำอะไร จู่มือของจีเซลล่าที่ทิ้งลงด้านล่างก็โอบคอเขาและออกแรงพลิกตัวเขาให้หมุนคว้างกลางอากาศโดยไม่ทันตั้งตัว วิสัยทัศน์ของเอกพันธ์นั้นหมุนกลับไปมา เขามองเห็นแต่ดวงตาสีฟ้าเจิดจ้าเป็นประกายของหญิงสาวอยู่เบื้องหน้า และทันทีนั้น ริมฝีปากของเขาก็ถูกสัมผัสจากเนื้อนุ่มๆที่แทรกเอาอวัยวะอุ่นนุ่มเข้ามาในปาก

โครมมม!!!

     ร่างของทั้งสองเสียหลักลงพื้นและกลิ้งไถลไปจนสุดผนังบ้าน ยังดีที่เอกพันธ์ใช้พรมผู้พื้นจึงไม่บาดเจ็บ แต่สิ่งที่น่าแปลกใจไปกว่านั้นคือหญิงสาวที่แทบจะสิ้นใจนั้นกลับมีแรงราวกับชายฉกรรจ์ซึ่งกำลังจูบเอกพันธ์อย่างดูดดื่มจนสติของเขาแทบหลุดออกจากร่าง เอกพันธ์มองหน้าของจีเซลล่าด้วยความพิศวง หากเขาไม่ได้ตาฝาดไป เขาเห็นร่างของเธอนั้นกำลังเรืองแสงด้วยแสงสีฟ้าอ่อนๆทั้งตัว และดวงตาสีฟ้านั้นเจิดจ้าเสียเหลือเกิน ยังกับน้ำใสเย็นที่สัมผัสแล้วแผดเผาได้ในพริบตาเดียว
       เอกพันธ์ได้สติครั้งหนึ่ง ก็พยายามจะผละออกจากริมฝีปากที่บดขยี้เขาอยู่เพื่อจะพูด แต่ก็ต้องหยุดอยู่แค่นั้นเมื่อสัมผัสมือนุ่มๆที่มาเกาะกุมท่อนกายไว้ และนวดมันจนตื่นตัว

ข้าต้องการมัน’ 

       เอกพันธ์ได้ยินเสียงดังขึ้นในสมองที่ว่างเปล่าขณะประสานดวงตากับจีเซลล่า ไฟราคะกำลังแผดเผาหัวใจเขาจนกลายเป็นธุลีมลายสิ้น...


จบตอนที่ 20 อ่านต่อ 21 นะครับ


(จีเซลล่ากำลังจะกระทำชำเราหนุ่มดำซะแล้ว อย่าพลาดตอนที่ 21 นะครับ ฮ่าๆ  ติชมได้นะครับ ขอบคุณ)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น