จิตอิสระ บทที่ 3: ครอบงำ ตอนที่ 19
โดย อิสระ
9.00 น.
ชายผิวคล้ำในเสื้อเชิ้ตสีขาวยับเป็นรอย กำลังขับรถคันงามฝ่าฝูงรถอย่างรวดเร็ว เป้าหมายเบื้องหน้าคือคฤหาสน์ริชมอนต์อันเป็นทั้งบ้านและที่ทำงาน ในขณะที่เบาะหลังมีร่างสาวสะคราญในเสื้อคลุมนอนนิ่งอยู่ อันเกิดจากที่เอกพันธ์ขับชนเมื่อไม่กี่นาทีมานี้ เป็นเหตุการณ์ที่เขาไม่คาดคิดว่าจะเกิดขึ้นจริงๆ ราวกับทุกสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นเป็นดังความฝัน แต่จะฝันได้ไงล่ะ เมื่อเห็นร่างนั้นนอนหลับหายใจแผ่วๆอยู่ทนโท่
“เฮ้อ... จะเอาไงดีน๊า...” เอกพันธ์รำพึงพลางถอนหายใจเบาๆขณะสับเกียร์รถออกตัวเมื่อไฟเขียว อีกไม่กี่นาทีข้างหน้าเขาก็จะถึงคฤหาสน์แล้ว ความจริงเขาควรพาหญิงสาวที่เขาชนไปส่งโรงพยาบาล แต่เขากลัวจะไม่ทันเข้างานอีกทั้งดูจากสภาพแล้วยังไม่พบอาการบาดเจ็บใดๆจากร่างของหญิงคนนั้นเลย นี่เขาจะทำอย่างไรต่อไปดีล่ะ?
“อือ...ออ..” หญิงสาวครางเบาๆพลางขยับตัวทั้งที่ดวงตายังปิดสนิทอยู่ เอกพันธ์สะดุ้งเล็กน้อยหันไปมองร่างหญิงสาว เห็นเธอบิดตัวเอามือขวาลูบที่สะโพกเบาๆราวกับคลำแผล เขาจึงหักพวงมาลัยจอดรถข้างทางทันทีเพราะต้องดูอาการบาดเจ็บ
เอกพันธ์จอดรถ เข้าเกียร์ว่างและดึงเบรกมือไว้ ก่อนจะเปิดประตูลุกไปดูอาการ เมื่อเข้าออกมาและเปิดประตูคนนั่งด้านหลังออก ก็ประสานเข้ากับสายตาสีฟ้าใสจ้องอยู่ก็ถึงกับชะงักอยู่ตรงนั้น ราวกับมีเชือกล่องหนที่มองไม่เห็นมาตรึงร่างกายทุกส่วนให้อยู่กับที่ไปไหนไม่ได้ และยืนมองร่างของสาวสวยกำลังยันตนเองลุกขึ้นทั้งๆที่ยังจ้องมองเขาไม่กระพริบตา
“ที่นี่ ที่ไหน” เสียงใสๆเผยอออกจากริมฝีปากอวบอิ่มนั่น ทำเอาร่างที่แข็งทื่อของเอกพันธ์หลอมละลายไปในทันที เขาแทบจะเซลงกับตัวรถด้วยซ้ำหากมือไม่คว้าบานประตูไว้ ก่อนจะหายใจนำเอาอากาศเข้าไปในปอดดังเฮือกใหญ่ และเริ่มมองตามตัวเพื่อหาแผลหรืออาการบาดเจ็บ
“ที่นี่ ที่ไหน” เสียงของหญิงสาวดังขึ้นมาอีกครั้ง แล้วเธอก็ขยับตัวนั่งให้เรียบร้อย ทำให้เอกพันธ์สะดุ้งนิดหน่อย
“กรุงเทพ แถวประเวศ เธอมาจากไหน?” เอกพันธ์ตอบอย่างรวดเร็ว แต่เสียงตะกุกตะกัก “แล้วเป็นอะไรมากมั้ย”
“ข้า มาจากอมตะนครา กาแล็กซี่ฟอร์น๊อกซ์มาตามหาราชันย์ของข้า นามว่าเจนนู” หญิงสาวตอบก่อนดึงมือของเอกพันธ์ให้เข้ามาในตัวรถอย่างรุนแรง เอกพันธ์ไม่ได้ตั้งตัวก็ต้องปลิวตามแรงฉุดเข้าไปในรถอย่างแรงจนกระแทกเข้ากับร่างนุ่มนิ่มของเธอ เมื่อรู้ตัวอีกครั้งก็พบว่าแก้มทั้งสองกำลังแนบติดกับเนื้อหยุ่นๆใต้เสื้อคลุม เงยหน้าก็พบใบหน้าใสกระจ่างนั้นจ้องมองอยู่
“เจ้ารู้จักไหม?” หญิงสาวถาม แต่เอกพันธ์กลับตกใจ รีบผละออกและอุทานเสียงหลง ดวงตาเบิกโพลงหัวใจเต้นสั่นระรัวแทบจะออกมานอกผิวหนัง
“ว เหวอ... เธอเป็นอะไรเนี่ย!!!” เอกพันธ์ร้องอย่างตกใจเพราะเขาตั้งตัวไม่ทันกับเหตุการณ์ที่กระทบกระเทือนความรู้สึกนับสิบที่เข้ามาจู่โจมในคราวเดียวกัน
“ข้ามีนามว่า จีเซลล่า เป็นราชินีแห่งอมตะนครา เจ้าล่ะมีนามว่าอย่างไร เจ้ามนุษย์?”
ในหัวของเอกพันธ์นั้นไม่มีสิ่งใดๆอันก่อให้เกิดกระบวนการความคิดเหลืออยู่เลย ดวงตาของเขาจ้องมองจีเซลล่าด้วยสายตาว่างเปล่าไร้ความหมายแต่ยังเบิกโพลงค้างอยู่ จีเซลล่าสังเกตุพลางเบื่อหน่ายในอารมณ์แล้วยื่นมือไปเขกกระโหลกชายหนุ่มเบาๆ
“โอ๊ะ!!! นี่เธอ ทำผมทำไมเนี่ย???” เอกพันธ์สะดุ้ง กระเถิบตัวหนีอีกครั้งเอามือขวาลูบหัวที่โดนเขก
“ถามไม่ตอบสักครั้ง ข้าถามว่าเจ้ามีนามว่าอย่างไร” จีเซลล่าถามอีกครั้งด้วยน้ำเสียงรำคาญปนยั๊วะนิดๆ
“เอก...เอกพันธ์ เธอ...”
“จีเซลล่า บอกไปสองคราแล้วนั่น เจ้ามิรู้จักฟัง”
“จีเซล... ฮะ??? แล้วเธอ... อะไร... ยังไง...”
คราวนี้ถึงตาจีเซลล่าถอนหายใจบ้าง ตาเหลือบไปด้านบนอย่างไม่สบอารมณ์ก่อนที่จะจ้องมองเอกพันธ์อย่างมุ่งร้าย แล้วคว้าเข้ากลางเป้าของเขาอย่างรวดเร็ว
“พาข้าไปที่ไหนก็ได้ ข้าจะเล่าให้ฟังทีหลัง” จีเซลล่าออกคำสั่งพลางขยำบีบเจ้าท่อนเนื้อนั้นไปมา ทำเอาเอกพันธ์หายใจไม่ทั่วท้องเพราะรสสัมผัสที่แสนสุดจะบรรยายนั่น แต่ไม่ทันไรเขาก็ได้สติกระเด้งตัวออกจากที่นั่งอย่างรวดเร็วและปิดประตูลงมานั่งที่นั่งคนขับอย่างว่องไว
“เธอ...” เอกพันธ์หันไปมองจีเซลล่าด้วยดวงตาหรี่ข้างนึงเหมือนกำลังคิดพลางชี้หน้าราวกับจะพูดอะไรบางอย่าง
“อย่าถามข้า ณ ตอนนี้ จงพาไปที่พักของเจ้า” จีเซลล่าออกคำสั่งอีกครั้งพลางมองด้วยดวงตาถลึงออกมาขณะทำมือเหมือนจะขยำอะไรบางอย่าง เอกพันธ์มองมือนั้นแล้วรีบหันกลับไปออกรถอย่างรวดเร็วด้วยอาการขนลุกซู่ ขณะที่ภาพของหน้าอกนุ่มๆและสัมผัสของมือนั้นยังฝังอยู่ในหัวส่งผลให้ท่อนกายของเขาแข็งขึ้นมาอย่างลืมตัว
จบตอนที่ 19 อ่านต่อ 20 นะครับ
พานพบ เพียงเพื่อ พลัดพราก
จรจาก จำใจ จารจด
มากมาย มักมอด ม้วยหมด
แผ่วพจน์ ผูกพัน ผ่านพ้น
(ผ่านมาพบ งามหมดจด ลิ้มรสรัก ลงรอยปัก สลักจิต พิสมัย
ราวกับฟ้า ขีดชะตา ส่องครรลัย ให้ดวงใจ สองเรานั้น ได้ผูกพัน
ผมแต่งเองไม่ทราบว่าท่อนในวงเล็บนี้ได้อารมณ์มั้ยนะ ขอคำคอมเม้นท์ด้วย หากท่านใดต่อได้จะขอชมหน่อยแล้วกัน อิอิ ติชมได้นะครับ ขอบคุณ)
9.00 น.
ชายผิวคล้ำในเสื้อเชิ้ตสีขาวยับเป็นรอย กำลังขับรถคันงามฝ่าฝูงรถอย่างรวดเร็ว เป้าหมายเบื้องหน้าคือคฤหาสน์ริชมอนต์อันเป็นทั้งบ้านและที่ทำงาน ในขณะที่เบาะหลังมีร่างสาวสะคราญในเสื้อคลุมนอนนิ่งอยู่ อันเกิดจากที่เอกพันธ์ขับชนเมื่อไม่กี่นาทีมานี้ เป็นเหตุการณ์ที่เขาไม่คาดคิดว่าจะเกิดขึ้นจริงๆ ราวกับทุกสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นเป็นดังความฝัน แต่จะฝันได้ไงล่ะ เมื่อเห็นร่างนั้นนอนหลับหายใจแผ่วๆอยู่ทนโท่
“เฮ้อ... จะเอาไงดีน๊า...” เอกพันธ์รำพึงพลางถอนหายใจเบาๆขณะสับเกียร์รถออกตัวเมื่อไฟเขียว อีกไม่กี่นาทีข้างหน้าเขาก็จะถึงคฤหาสน์แล้ว ความจริงเขาควรพาหญิงสาวที่เขาชนไปส่งโรงพยาบาล แต่เขากลัวจะไม่ทันเข้างานอีกทั้งดูจากสภาพแล้วยังไม่พบอาการบาดเจ็บใดๆจากร่างของหญิงคนนั้นเลย นี่เขาจะทำอย่างไรต่อไปดีล่ะ?
“อือ...ออ..” หญิงสาวครางเบาๆพลางขยับตัวทั้งที่ดวงตายังปิดสนิทอยู่ เอกพันธ์สะดุ้งเล็กน้อยหันไปมองร่างหญิงสาว เห็นเธอบิดตัวเอามือขวาลูบที่สะโพกเบาๆราวกับคลำแผล เขาจึงหักพวงมาลัยจอดรถข้างทางทันทีเพราะต้องดูอาการบาดเจ็บ
เอกพันธ์จอดรถ เข้าเกียร์ว่างและดึงเบรกมือไว้ ก่อนจะเปิดประตูลุกไปดูอาการ เมื่อเข้าออกมาและเปิดประตูคนนั่งด้านหลังออก ก็ประสานเข้ากับสายตาสีฟ้าใสจ้องอยู่ก็ถึงกับชะงักอยู่ตรงนั้น ราวกับมีเชือกล่องหนที่มองไม่เห็นมาตรึงร่างกายทุกส่วนให้อยู่กับที่ไปไหนไม่ได้ และยืนมองร่างของสาวสวยกำลังยันตนเองลุกขึ้นทั้งๆที่ยังจ้องมองเขาไม่กระพริบตา
“ที่นี่ ที่ไหน” เสียงใสๆเผยอออกจากริมฝีปากอวบอิ่มนั่น ทำเอาร่างที่แข็งทื่อของเอกพันธ์หลอมละลายไปในทันที เขาแทบจะเซลงกับตัวรถด้วยซ้ำหากมือไม่คว้าบานประตูไว้ ก่อนจะหายใจนำเอาอากาศเข้าไปในปอดดังเฮือกใหญ่ และเริ่มมองตามตัวเพื่อหาแผลหรืออาการบาดเจ็บ
“ที่นี่ ที่ไหน” เสียงของหญิงสาวดังขึ้นมาอีกครั้ง แล้วเธอก็ขยับตัวนั่งให้เรียบร้อย ทำให้เอกพันธ์สะดุ้งนิดหน่อย
“กรุงเทพ แถวประเวศ เธอมาจากไหน?” เอกพันธ์ตอบอย่างรวดเร็ว แต่เสียงตะกุกตะกัก “แล้วเป็นอะไรมากมั้ย”
“ข้า มาจากอมตะนครา กาแล็กซี่ฟอร์น๊อกซ์มาตามหาราชันย์ของข้า นามว่าเจนนู” หญิงสาวตอบก่อนดึงมือของเอกพันธ์ให้เข้ามาในตัวรถอย่างรุนแรง เอกพันธ์ไม่ได้ตั้งตัวก็ต้องปลิวตามแรงฉุดเข้าไปในรถอย่างแรงจนกระแทกเข้ากับร่างนุ่มนิ่มของเธอ เมื่อรู้ตัวอีกครั้งก็พบว่าแก้มทั้งสองกำลังแนบติดกับเนื้อหยุ่นๆใต้เสื้อคลุม เงยหน้าก็พบใบหน้าใสกระจ่างนั้นจ้องมองอยู่
“เจ้ารู้จักไหม?” หญิงสาวถาม แต่เอกพันธ์กลับตกใจ รีบผละออกและอุทานเสียงหลง ดวงตาเบิกโพลงหัวใจเต้นสั่นระรัวแทบจะออกมานอกผิวหนัง
“ว เหวอ... เธอเป็นอะไรเนี่ย!!!” เอกพันธ์ร้องอย่างตกใจเพราะเขาตั้งตัวไม่ทันกับเหตุการณ์ที่กระทบกระเทือนความรู้สึกนับสิบที่เข้ามาจู่โจมในคราวเดียวกัน
“ข้ามีนามว่า จีเซลล่า เป็นราชินีแห่งอมตะนครา เจ้าล่ะมีนามว่าอย่างไร เจ้ามนุษย์?”
ในหัวของเอกพันธ์นั้นไม่มีสิ่งใดๆอันก่อให้เกิดกระบวนการความคิดเหลืออยู่เลย ดวงตาของเขาจ้องมองจีเซลล่าด้วยสายตาว่างเปล่าไร้ความหมายแต่ยังเบิกโพลงค้างอยู่ จีเซลล่าสังเกตุพลางเบื่อหน่ายในอารมณ์แล้วยื่นมือไปเขกกระโหลกชายหนุ่มเบาๆ
“โอ๊ะ!!! นี่เธอ ทำผมทำไมเนี่ย???” เอกพันธ์สะดุ้ง กระเถิบตัวหนีอีกครั้งเอามือขวาลูบหัวที่โดนเขก
“ถามไม่ตอบสักครั้ง ข้าถามว่าเจ้ามีนามว่าอย่างไร” จีเซลล่าถามอีกครั้งด้วยน้ำเสียงรำคาญปนยั๊วะนิดๆ
“เอก...เอกพันธ์ เธอ...”
“จีเซลล่า บอกไปสองคราแล้วนั่น เจ้ามิรู้จักฟัง”
“จีเซล... ฮะ??? แล้วเธอ... อะไร... ยังไง...”
คราวนี้ถึงตาจีเซลล่าถอนหายใจบ้าง ตาเหลือบไปด้านบนอย่างไม่สบอารมณ์ก่อนที่จะจ้องมองเอกพันธ์อย่างมุ่งร้าย แล้วคว้าเข้ากลางเป้าของเขาอย่างรวดเร็ว
“พาข้าไปที่ไหนก็ได้ ข้าจะเล่าให้ฟังทีหลัง” จีเซลล่าออกคำสั่งพลางขยำบีบเจ้าท่อนเนื้อนั้นไปมา ทำเอาเอกพันธ์หายใจไม่ทั่วท้องเพราะรสสัมผัสที่แสนสุดจะบรรยายนั่น แต่ไม่ทันไรเขาก็ได้สติกระเด้งตัวออกจากที่นั่งอย่างรวดเร็วและปิดประตูลงมานั่งที่นั่งคนขับอย่างว่องไว
“เธอ...” เอกพันธ์หันไปมองจีเซลล่าด้วยดวงตาหรี่ข้างนึงเหมือนกำลังคิดพลางชี้หน้าราวกับจะพูดอะไรบางอย่าง
“อย่าถามข้า ณ ตอนนี้ จงพาไปที่พักของเจ้า” จีเซลล่าออกคำสั่งอีกครั้งพลางมองด้วยดวงตาถลึงออกมาขณะทำมือเหมือนจะขยำอะไรบางอย่าง เอกพันธ์มองมือนั้นแล้วรีบหันกลับไปออกรถอย่างรวดเร็วด้วยอาการขนลุกซู่ ขณะที่ภาพของหน้าอกนุ่มๆและสัมผัสของมือนั้นยังฝังอยู่ในหัวส่งผลให้ท่อนกายของเขาแข็งขึ้นมาอย่างลืมตัว
จบตอนที่ 19 อ่านต่อ 20 นะครับ
พานพบ เพียงเพื่อ พลัดพราก
จรจาก จำใจ จารจด
มากมาย มักมอด ม้วยหมด
แผ่วพจน์ ผูกพัน ผ่านพ้น
(ผ่านมาพบ งามหมดจด ลิ้มรสรัก ลงรอยปัก สลักจิต พิสมัย
ราวกับฟ้า ขีดชะตา ส่องครรลัย ให้ดวงใจ สองเรานั้น ได้ผูกพัน
ผมแต่งเองไม่ทราบว่าท่อนในวงเล็บนี้ได้อารมณ์มั้ยนะ ขอคำคอมเม้นท์ด้วย หากท่านใดต่อได้จะขอชมหน่อยแล้วกัน อิอิ ติชมได้นะครับ ขอบคุณ)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น