สารบัญ จิตอิสระ โดย อิสระ

12 มีนาคม, 2555

จิตอิสระ บทนำ ตอนที่ 2 โดย อิสระ

จิตอิสระ บทนำ ตอนที่ 2 โดย อิสระ

        ใต้ปราสาทพู่กันสีหมอก ลึกลงไปราว400เมตร เจนนูได้สร้างกองกำกับการยานพาหนะไว้ เพื่อเดินทางไปยังที่ต่างๆ โดยตามปกติแล้วเขาจะใช้พาหนะโดยสารที่นี่เพื่อตรวจตราเมืองเท่านั้น  แต่ครั้งนี้ หลังจากที่เจนนูตรวจพิกัดและบันทึกลงในหน่วยความจำของเครื่องยนต์ใหม่ล่าสุดของเขาแล้ว เขาก็รีบแทรกตัวเข้าเครื่องยนต์ของเขาทันที ยานพาหนะรูปร่างทรงกลมมนไม่มีมุมและเหลี่ยม ลอยตัวอยู่นิ่งกลางอากาศเหนือพื้นเพียงไม่กี่เซนติเมตร ทันทีที่มีผู้โดยสารเขาไป เครื่องยนต์ก็ส่งเสียงร้องราวกับรู้สึกยินดีปรีดาที่มีผู้มาใช้บริการมัน ส่องแสงสีเหลืองแวววับราวกับกำลังจะโลดแล่น ก่อนที่จะลอยตัวขึ้นสูง
“ข้าขอฝากเจ้าดูแลความเรียบร้อยในปราสาทให้ด้วยนะ” เจนนูกล่าวทิ้งท้ายให้กับขุนนางของตน ก่อนที่ร่างของเขาจะเข้าไปอยู่ในลูกบอลทรงกลมนี้หมด
“อย่าได้กังวลเลยขอรับ วางใจข้าพเจ้าได้” เลวีกาโค้งคำนับขณะที่ร่างกายกำลังสั่นเทิ้มราวกับรู้สึกยินดี พริบตาเดียว ลูกบอลสีเหลืองก็ทะยานออกจากที่ที่เคยอยู่ พุ่งทะลุชั้นบรรยากาศดวงดาวอย่างรวดเร็ว

        โดยทั่วไปแล้ว เผ่าเดมิก๊อด มีสภาพร่างกายแตกต่างกันไปตามลักษณะเฉพาะของแต่ละตน เนื่องจากเมื่อเดมิก๊อดตนใด ทำงานลักษณะใด ร่างกายของตนก็จะเปลี่ยนแปรให้เข้ากับสิ่งที่ตนกำลังทำอยู่ และจะกลายเป็นเอกลักษณ์ประจำตัวไปจนกว่าจะแตกดับและเกิดขึ้นใหม่ ในขณะที่เจนนู คงอยู่ในสภาพร่างกายเล็กและดูอ่อนแอเช่นนี้มาร่วม200ปีแล้ว เพราะเขาไม่ได้ทำอะไรไปมากกว่าการนั่งๆนอนๆไปวันๆ และเมื่อต้องเดินทาง ร่างกายเขาจำต้องผสานร่างให้เข้ากับยานพาหนะ ไม่เช่นนั้นเขาจะไม่สามารถเดินทางออกจากสภาพชั้นบรรยากาศของตนได้ ซึ่งแปลว่าขณะนี้ เจนนู ไม่ได้นั่งยานพาหนะไปยังจุดหมายของเขา แต่กลายเป็นว่า เขากำลังเดินทางด้วยตนเอง และเมื่อถึงที่หมาย เขาจำเป็นต้องย้อนกลับไปในร่างกายเริ่มต้นครั้งแรกอีกครั้ง เพื่อสลัดร่างกายใหม่ที่ได้รับออก และปรับเข้ากับสภาพของดาวโลก
        การเดินทางเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ด้วยจิตใจมานะ พยายาม และตื่นตัวครั้งแรกหลังจากหลับไหลมานานของเจนนู
-ขณะเดียวกันที่ปราสาทพู่กันสีหมอก-

“ข้าไม่นึกว่าท่านจะไล่ไอ้เจ้าตายด้านนั่นออกไปได้นะ ท่านนี่สามารถจริงๆ” เสียงกล่าวชมเชยดังขึ้นหลังจากเลวีกาเดินออกจากทางใต้ดินของปราสาท เมื่อเลวีกาหันมาตามเสียง เขาก็พบจีเซลล่ากำลังยืนพิงกำแพง แอ่นร่างกายอวดส่วนสัดอันงดงาม จ้องมองมายังเขาอย่างมีความหาย
“ข้าก็คิดไม่ถึงเช่นเดียวกับท่านแหละ...”แล้วเลวีกาก็หันไปมองรอบข้าง ก่อนจะพูดต่อ”ยอดดวงใจของข้า” 
“ท่านก็... พูดออกมาได้ไม่เกรงใครคนอื่นเลยหรือ ที่ออกโจ่งแจ้งขนาดนี้” จีเซลล่าเบิ่งตาโตเชิงดุ พร้อมกับหันรีหันขวางราวกับกลัวว่าจะมีอมราตนใดได้ยินเข้า
“ใครเล่า จะเข้ามาในปราสาทพู่นสีหมอกที่บัดนี้กลายเป็นของข้าแล้วเล่า ราชินี” พูดจบเลวีกาก็สะบัดร่างกายอ้วนท้วมราวกับหนอนออกอย่างรุนแรง ลำตัวที่เป็นข้อต่อขาดออกจากกันอย่างรวดเร็ว เกิดกล้ามเนื้อสีแดงสดผุดออกมาจากส่วนในของร่างกายพร้อมๆกับไปน้ำพวยพุ่งออกมาราวกับน้ำร้อนเดือดจัด พริบตาเดียวร่างกายของเลวีกาที่อ้วนน่าเกลียดก็เปลี่ยนมาเป็นร่างสูงยาวกำยำ เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อเครียดครัดทุกส่วน
“บัดนี้ ข้าเป็นนายเหนือหัวของอมตะนครา แห่งกาแล๊กซี่ฟอร์แนกซ์ ครองปราสาทพู่กันสีหมอกคู่กับราชินีจีเซลล่า ยอดดวงใจของข้า!!!”  เลวีกาประกาศเสียงดัง ราวกับสามารถสั่นสะเทือนอณูอากาศทั่วทั้งนครให้ปั่นป่วนได้ เสียงที่ออกมานั้น ได้ยินร่วมกันทุกตนทั่วทั้งอาณาจักร ก่อนที่จะคว้าร่างของจีเซลล่ามาแนบกาย และกระซิบเบาๆ
“และข้าจะอยู่ร่วมกับเจ้าตลอดนิรันดร์” 
จีเซลล่าทำหน้าฉงนกับคำพูดของอมราเพศผู้ร่างกำยำ ไม่ทันที่เธอได้ออกเสียง เลวีกาก็หยิบแท่งแคปซูลขนาดเท่ามือออกมา
“ข้าได้ถอดอุปกรณ์นำทางกลับมายังดาวประจำยานและฝังปรสิตเข้าไปแทน มันจะทำหน้าที่เหมือนชิปทุกอย่าง ยกเว้นแต่ว่า มันจะสร่างคำสาปให้กับผู้ใช้มัน” 
“ท่านทำอย่างได้อย่างไร” แทนที่ราชินีผู้ครองบัลลังก์ร่วมเจ้าอาณาจักรจะตกตะลึงในความชั่วช้า กลับยิ้มร่าออกอาการดีใจอย่างที่สุด พร้อมกอดร่างของเลวีกาไว้อย่างแนบแน่น ร่างสีฟ้าของเธอกำลังปริออก ปรากฏเป็นสายระยางมากมายโอบรัดร่างของเลวีกาไว้ ก้อนที่เธอจะแลบลิ้นออกยาวจนถึงด้านล่าง โอบรัดท่อนกายของเลวีกาที่งอกออกมาจากส่วนล่างอย่างรวดเร็วไว้
“ข้าทนไม่ได้ที่ต้องเห็นเจ้าเปล่าเปลี่ยวอยู่บนบัลลังก์ที่ไร้ความอบอุ่นตนเดียว ข้าจะไม่ยอมให้อมราหน้าไหน มาแสดงอากัปกิริยาเฉยชาต่อร่างอันแสนเย้ายวนของเจ้าอีก ข้าจำต้องทนอาศัยอยู่ในร่างปวกเปียกเช่นนั้นมานานเพื่อโอกาศอันเหมาะสมเช่นนี้ เจ้ากับข้าจะคู่กันจนเอกภพแตกดับสูญสิ้น
“โอ ท่านยอดรัก ข้าจะอยู่กับท่านเช่นนี้ตลอดไป” สิ้นเสียง ร่างของทั้งคู่ก็ผสมรวมกันราวกับกลายเป็นเนื้อเดียว เสียงครวญครางกระซิบกระซาบดังต่อเนื่องขณะที่ร่างค่อยๆลอยขึ้นไปอย่างช้าๆ และปราสาทพู้กันสีหมอกก็ตกในความควบคุมของเลวีกาในบัดดล!!!


จบบทที่ 2 รอติดตามต่อบทที่3นะครับ

(ออกแนวต่างดาวเยอะไป 555+ ตอนต่อไปละกันนะครับ     ติชมได้นะครับ ขอบคุณ)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น