สารบัญ จิตอิสระ โดย อิสระ

12 มีนาคม, 2555

จิตอิสระ บทนำ ตอนที่ 4 โดย อิสระ

จิตอิสระ ตอนที่ 4 โดย อิสระ

อลิสสิตาเดินไปยังที่นั่งข้างๆริชมอนต์ ผู้เป็นพ่อ กล่าวทักทายชายแปลกหน้าทั้งสองและค่อยๆย่อขาลงเพื่อนั่งเก้าอี้อย่างสำรวม นำมือทั้งสองประสานไว้บนตักอย่างเรียบร้อย แล้วลดสายตาลงต่ำไม่มองใครทั้งสิ้น
“เป็นอย่างที่ผมบอกมาทั้งหมด” ริชมอนต์เอ่ยขึ้น จนชายแก่หัวล้านต้องสะดุ้งเล็กน้อย แต่วิชิต ลูกชายเจ้าสัว ยังมองเธออย่างไม่เกรงใจสายตาใคร “ลูกสาวผมมรรยาทดี เรียบร้อย ทั้งสวย ฉลาด เป็นแม่ศรีเรือนได้ดี ทั้งหมดนี้ได้มาจากแม่ล้วนๆเลยนะ” ริชมอนต์พูดต่อ เจ้าสัวหันไปสะกิดลูกชายตนเองใต้โต๊ะ เขาจึงถึงหันกลับมาหาผู้พูด
“ท่านก็กล่าวเกินไป ผมได้ยินมาว่าคุณย่าบริเจท มีนัยน์ตาสีน้ำตาล หากไม่ได้จากฝั่งท่านแล้ว น้องอลิสสิตา จะมีดวงตาที่ดึงดูดใจกระผมอย่างนี้ไม่ได้เป็นแน่” นายวิชิตป้อนคำหวานโดยวิสาสะใส่คำเรียกแสดงความสนิทสนม นายริชมอนต์และอลิสสิตายังคงสีหน้าเรียบเฉย
“คุณวิชิตนี่ศึกษามาอย่างดีนะเนี่ย สงสัยว่าคุณคงพร้อมที่จะมาเป็นลูกเขยผมได้ทุกวินาทีเลยนะ ฮ่าๆ”
“ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกครับ ฮ่าๆ”
การสนทนายังคงดำเนินต่อไปโดยที่ชายทั้งสามเป็นคนพูดซะเกือบทั้งหมด อลิสสิตาได้เพียงแต่พยักหน้ารับ แต่ขานตอบด้วยใบหน้าฝืนยิ้มเต็มทน อาหารมากมายได้นำมาเสิร์ฟจานแล้วจานเล่า ผู้ร่วมวงอาหารแต่ได้แค่นิดหน่อยก็สั่งเปลี่ยนไปเรื่อยราวกับไม่รู้คุณค่าของวัตถุดิบชั้นดีที่สรรหามาจากแดนไกลที่ไหน อลิสสิตาเบื่อ กับชีวิตที่อยู่ในกรงแบบนี้ เมื่อไหร่เธอจะได้ออกไปที่ไหนก็ได้ซักแห่ง ที่ไม่ต้องมีใครมาติดตามเธอ เธอต้องการความเป็นส่วนตัว เธออิจฉาผู้คนทั่วไปที่ต่างมีเวลาส่วนตัวอันมีค่าเหล่านั้น ต้องการที่ไหนก็ได้ในโลกที่เธอสามารถยืนได้และสามารถหายใจได้อย่างบริสุทธิ์ใจจริงๆ

-เราไม่ไหวแล้ว-
...
-เราอยากไปไหนก็ได้ที่มีแต่เราคนเดียว-
...
-เราไม่ต้องการสายตาเหล่านั้นที่คอยจับตามองตลอดเวลา-
...
-เราต้องการเป็นดังสายลมบริสุทธิ์-
...
-เราต้องการหลุดจากกรอบเดิมๆแบบนี้-

….
…..
……




“หนูจะไปละ”
สิ้นเสียงประกาศก้อง โดยที่ไม่มีใครเตรียมตัวเตรียมการได้ทัน สาวผมน้ำตาลลุกพรวดจากที่นั่ง ทำเอาส่วนต่างๆในร่างกายสั่นไหวอย่างรุนแรง ทรวงอกภายใต้ผ้าไหมสีฟ้าขยับเรากับถูกปลุกให้ตื่น ดึงดูดสายตาของทุกคนในห้องอาหารชั่วพริบตา และอลิสสิตาก็เดินออกจากโต๊ะอาหารไปยังด้านนอกทันที
“ลูกอลิส นั่นลูกจะไปไหน เกิดอะไรขึ้น” ริชมอนต์ถามด้วยเสียงสั่นเต๋มไปด้วยความตกใจและสงสัย แต่ไม่ได้รับการตอบรับใดๆจากลูกตน อลิสสิตาเดินออกไปยังระเบียงห้องอาหารและเดินหายไปลับตา
“ท่าทางอาจจะมีเรื่องอะไรเร่งด่วนนะครับคุณพ่อ เดี๋ยวกระผมขออาสาไปตามน้องอลิสให้”
ครั้งนี้นายริชมอนต์กลับมองวิชิตด้วยสีหน้ามพอใจ แต่พริบตาก็ตีหน้าเรียบเฉยกลบเกลื่อน พร้อมตอบกลับสั้นๆ 
“ไปสิ”
นายวิชิตลุกออกไปอย่างลิงโลดราวกับนักโทษได้รับการปล่อยตัว เขาก้าวเดินดุ่มๆออกไปโดยไม่เอะใจสักนิด ว่าทางเดินนั้นกำลังจะเปลี่ยนทุกสิ่งอย่างในชีวิตเขาทั้งปวง


-ณ ห้วงอวกาศอันห่างไกล-

เจนนู เดินทางด้วยความเร็วสูง พริบตาจากกาแล็กซี่ฟอร์แน็กซ์ เขาก็ทะลุมายังกาแล็กซี่ทางช้างเผือกอย่างรวดเร็วด้วยการพุ่งผ่านรูหนอนยักษ์ และอีกไม่กี่นาทีนี้เขากำลังจะพุ่งชนชั้นบรรยากาศ แมกเนโตสเฟียร์  ซึ่งต้องใช้สมาธิและกำลังพุ่งปะทะและทะลุให้ได้
“อ๊ากกกกกกกกกกกกก”
เจนนูร้องเสียงดัง ทันทีที่เขาเริ่มตั้งสมาธิรวมพลังไว้ที่กลางใจ เขารู้สึกได้ถึงสิ่งแปลกปลอมที่พุ่งจากด้านหลังของตนเข้าสู่ศีรษะ ทันใดนั้นร่างกายอันทำจากโลหะพิเศษก็หลอมละลาย ราวกับถูกความร้อนแรงสูงแผดเผา ในวินาทีนี้ไม่มีเวลามานั่งคร่ำครวญหรือคิดว่าเกิดอะไรขึ้นกับร่างดัดแปลงของตนเองแล้ว เจนนูเร่งตนเองให้แตะพื้นโลกให้เร็วที่สุด เพราะหากยังติดอยู่ในห้วงอวกาศที่ไม่มีสิ่งใดเจริญเติบโต ชีวิตเขาจะต้องดับสูญจริงๆเป็นแน่แท้
เมื่อผ่านชั้นบรรยากาศ อาการของเจนนูยิ่งทวีความรุนแรงเป็นเท่าตัว ร่างของเขาไม่สามารถประกอบและจัดทรวดทรงได้ ต่างระเกิดระเหยกลายเป็นกลุ่มก๊าซสีแดงเป็นทางยาว แต่จิตใจของเจ้าแห่งอาณาจักรยังมั่นคงไม่เปลี่ยนแปรแม้จะเจ็บปวดแค่ไหน เขากัดฟันบังคับตนให้เข้าไปยังจุดใดจุดหนึ่งของพื้นโลก และกำลังเข้าชนอย่างรุนแรง
.
..
...
....
.....



นั่นเป็นเวลาเดียวกับที่อลิสสิตากำลังมองไปยังแสงจ้าสีแดงกลางท้องฟ้าทะมึนทึบยามราตรี




จบตอนที่4 ตามต่อตอนที่5นะครับ

(กำลังจะผ่านช่วงบทนำแล้ว อย่าว่ากัน เพราะโครงเรื่องมันแน่นมากครับ ขออภัยติชมได้นะครับ ขอบคุณ)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น